พุทธภาษิต ว่าด้วยเรื่อง...โลก
จิตเดิมแท้ของเรานั้นทุกคนนั้นมาจากธรรมชาติอันบริสุทธิ์
        (6) ว่าด้วยเรื่อง...โลก
       ภิกษุหนุ่มผู้หนึ่ง...ทะเลาะกับหลานสาวของนางวิสาขาถึงขั้นด่ากัน ว่า “ไอ้คนไร้สมอง” พระพุทธเจ้าทําทีเป็นโอนอ่อนเข้าข้างภิกษุหนุ่มผู้นี้ แล้วตรัสภาษิตว่า...
อย่าประพฤติสิ่งเลวทราม
อย่าอยู่ด้วยความประมาท
อย่ายึดถือความเห็นผิด
อย่าทำตนเป็นคนรกโลก
       ภิกษุผู้หนึ่ง...เล็งเห็นพยับแดดแล้วพิจารณาเป็นอารมณ์ว่า ร่าง กายย่อมแตกดับไปดุจพยับแดดนี้ พระพุทธเจ้าเปล่งฉัพพรรณรังสีดุจพระองค์เองต่อหน้าภิกษุนั้นแล้วตรัสภาษิตว่า...

ผู้ที่มองเห็นโลก
ว่าไม่จีรังและหาสาระอะไรมิได้
เช่นเดียวกับคนมองฟองน้ำและพยับแดด
คนเช่นนี้พญามารย่อมตามหาไม่พบ

       อภัยราชกุมาร...บุตรแห่งพระเจ้าพิมพิสาร สามารถปราบปรามกบฎให้สงบราบคาบลงได้ พระเจ้าพิมพิสารมอบราชสมบัติให้ ๗ วัน อภัยราชกุมารรื่นเริงกับการรําฟ้อน เมื่อล่วงเข้าวันที่ ๗ นางรําคนหนึ่งเสียชีวิตลง อภัยราชกุมารเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าเพื่อระงับความเศร้า พระพุทธเจ้าจึงตรัสภาษิตว่า...

เจ้าทั้งหลายจงมาเถิด
มาดูโลกอันวิจิตรพิสดารเหมือนราชรถ
ณ ที่นี่แหละ
เหล่าคนโง่พากันหมกมุ่นอยู่
แต่ผู้รู้หาติดข้องอยู่ไม่
       ภิกษุทั้งหลาย...วิพากษ์กันถึงการละขันธ์เข้านิพพานของพระองคุลิมาลเถระ พระพุทธเจ้าตรัสว่าด้วยแต่ก่อนไม่มีกัลยาณมิตร แต่บัดนี้มีกัลยาณมิตรจึงทําให้พระองคุลิมาลเถระผู้ซึ่งฆ่าคนมามากมายสามารถเข้า ถึงนิพพานได้พร้อมตรัสภาษิตว่า...

ผู้ใดทำบาปไว้แล้ว
ละได้ด้วยการทำดี
ผู้นั้นย่อมส่องโลกนี้ให้สว่าง
เหมือนพระจันทร์ที่พ้นจากเมฆ
parson
minister
priest
6.3  ดวงตาเห็นธรรม
6.4  กรงขังมนุษย์
6.6  พบแสงแห่งธรรม
buddha
6.1  อย่าทำตัวรกโลก

       ภิกษุ ๓๐ รูป...เข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า พระอานนท์จึงออกไปจากที่นั้น จากนั้นพระพุทธเจ้าแสดงพระธรรมเทศนาจนภิกษุ ๓๐ รูปบรรลุอรหัตผลทั้งสิ้น ภิกษุเหล่านั้นจึงกระทําปาฏิหาริย์เหาะกลับไปยังสํานักของตน พระอานนท์ไม่เห็นการกลับของภิกษุเหล่านั้นจึงทูลถามพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าจึงตรัสภาษิตว่า...

พญาหงส์เหินฟ้าไปหาพระอาทิตย์
ผู้มีฤทธิ์เหาะเหินเดินอากาศ
นักปราชญ์ออกไปจากโลก
เพราะเอาชนะพญามาร พร้อมทั้งกองทัพ

clergyman
6.8  พ้นแล้วจากโลกนี้
       นายกาละ...เป็นบุตรของอนาถบิณฑิกเศรษฐี เป็นผู้ไม่เลื่อมใสพระศาสดา บิดาได้ว่าจ้างให้ไปฟังธรรมจนบรรลุโสดาปัตติผลในที่สุด หลังจากนั้นนายกาละจึงไม่รับค่าจ้างจากบิดาอีก แต่เต็มใจไปฟังธรรมด้วยตัวเอง พระพุทธเจ้าจึงตรัสภาษิตว่า...

ยิ่งกว่าเอกราชย์ทั่วทั้งแผ่นดิน
ยิ่งกว่าขึ้นสวรรคาลัย
ยิ่งกว่าอธิปไตยใดในใต้หล้า
คือพระโสดาปัตติผล

cleric
6.11  เลิศกว่าใดๆ ทั้งปวง
อดทนคือผู้ประเสริฐ
อดทนและอดกลั้น
มหาอานิสงส์ของการพิมพ์หนังสือธรรมะ

       “ ดูก่อนสารีบุตร  นรชนใดมีใจเปี่ยมด้วยศรัทธาได้สร้างหนังสือพระธรรมไว้ในพระพุทธศาสนา เพื่อประโยชน์แก่ชนทั้งหลายได้อ่านได้สดับฟัง จะได้รับอานิสงส์ใหญ่อันประมาณมิได้...
    ดูก่อนสารีบุตร อย่าว่าแต่พระพุทธวจนะตลอดทั้งไตรปิฎกนั้นเลย “แม้อักขระธรรมหนึ่งตัว” เป็นเครื่องหมายเพื่อน้อมนำจิตระลึกถึงคุณพระรัตนตรัย นำมาซึ่งความเลื่อมใสแก่ผู้ได้พบเห็น เป็นบ่อเกิดให้ประพฤติคุณงามความดีได้...
    ฉะนั้นแล้วจะยังผลให้ผู้สร้างได้เสวยสุขเกษมสิ้นกาลช้านาน  จักได้เสวยราชสมบัติเป็นบรมจักรพรรดิถึง 84,000 กัป ใช่แต่เท่านั้น เมื่อเคลื่อนจากความเป็นจักรพรรดิมาแล้วจะได้เสวยราชสมบัติเป็นพระราชาทรงมหิธานุภาพอีก 9 อสงไขย ต่อแต่นั้นมาก็จะได้เสวยสมบัติในตระกูลต่างๆ เป็นลำดับไปอันมีตระกูล พราหมณมหาศาล ตระกูลเศรษฐี คฤหบดี และภูมิเทวดาอย่างละ 9 อสงไขย ต่อแต่นั้นก็จะได้ไปเสวยสมบัติในฉกามาพจรสวรรค์ 6 ชั้นประณีีตเป็นลำดับขึ้นไปชั้นละ 9 อสงไขย  เมื่อจุติจากเทวโลกแล้วก็จะถือเอากำเนิดในมนุษย์มีกายผุดผ่องโสภาเป็นที่ปฏิพัทธ์รักใคร่ของผู้ได้พบเห็น ทั้งน้ำใจก็สุจริตปราศจากมลทิน อานิสงส์ดังกล่าวมานี้เพราะอำนาจการสร้างอักขระธรรมหนึ่งตัว ฯ”...
พระตถาคต
พุทธภาษิตจากพระโอษฐ์
องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
บุคคลผู้ฝึกตนแล้ว
จิตคือพาหนะชั้นเลิศ
อย่าหลงลืมตัว
จุดหมายยังอีกไกล
สยบใจ
หล่มกิเลส
สหายธรรม
ปลีกวิเวก
ธรรมอันประเสริฐ
Copyright (c) 2010 All Rights Reserved.
สำนักพิมพ์เอกอนันต์บุ๊ค
Tel : 034-246644
Mobile : 085-0658236, 089-6726781
Fax : 034-246644
email : 96rangjai@gmail.com
โลโก้เอกอนันต์
    บุคคลหรือหน่วยงานใดสนใจจัดพิมพ์หนังสือธรรมะเผยแพร่เพื่อแจกจ่ายเป็นธรรมทานแก่วัด  ห้องสมุด  โรงเรียน  โรงพยาบาล สถานสงเคราะห์  ทัณฑสถาน ฯ หรือใช้ในโอกาสอันเป็นมงคลในชีวิตท่าน  เช่น วันเกิด   ทำบุญบ้าน  กฐิน  ผ้าป่า  วันขึ้นปีใหม่  งานเกษียณอายุราชการ  งานศพ  สร้างอุทิศส่วนกุศล  สะเดาะเคราะห์  หรือแจกจ่ายในงาน มงคล-อวมงคลต่างๆ
    อนึ่ง  ทางรสำนักพิมพ์มีความยินดีในกุศลเจตนาของท่านผู้มีใจอนุเคราะห์ช่วยเหลือกล่อมเกลาจิตใจของชาวโลกด้วยกุศโลบายอันพระพุทธองค์ได้ทรงสรรเสริญแล้ว ทั้งนี้ ทางสำนักพิมพ์ขอร่วมอนุโมทนาบุญ โดยให้ความสะดวกในด้านบริการในราคาพิเศษและจัดส่งตามรายการสั่ง  ไม่ว่าซื้อน้อย-ซื้อมาก  ในกรุงเทพฯ หรือต่างจังหวัด  ทางสำนักพิมพ์ยินดีให้บริการแก่ทุกท่าน
ใจเป็นสุข
จงประพฤติสุจริตธรรม
อย่าประพฤติทุจริต
ผู้ประพฤติธรรมย่อมอยู่เป็นสุข
ทั้งในโลกนี้และโลกหน้า
ecclesiastic
       พระสัมมัชชนเถระ...มักกวาดลานวัดอยู่เป็นนิตย์ ส่วนพระเรวตะ เฝ้าบําเพ็ญสมณธรรม พระสัมมัชชนเถระต่อว่าพระเรวตเถระว่าเกียจคร้าน พระเรวตะจึงแนะกรรมฐานให้พระสัมมัชชนเถระจนพระสัมมัชชนเถระบรรลุอรหัตผล พระพุทธเจ้าจึงตรัสภาษิตว่า...

ผู้ที่เคยประมาทในกาลก่อน
แต่ภายหลังไม่ประมาท
เขาย่อมส่องโลกนี้ให้สว่าง
เหมือนพระจันทร์ที่พ้นจากเมฆ
parson
6.5  พ้นจากความมืด
       พระพุทธเจ้า...สนทนากับธิดานายช่างหูกด้วยคําถามว่า เธอมาจากไหน ? เธอจักไปไหน ? เธอไม่ทราบหรือ ? เธอทราบหรือ ? นางรู้อุบายธรรมของพระพุทธเจ้าว่าทรงถามเรื่องความไม่แน่นอนของชีวิต พระ พุทธเจ้าสรรเสริญปัญญาของนางพร้อมตรัสภาษิตว่า...

โลกนี้มืดมน น้อยคนจักเห็นแจ้ง
น้อยคนจะไปสวรรค์
เหมือนนกติดข่ายนายพราน
น้อยตัวจะหลุดรอดไปได้
clergyman
6.7  สัตว์ทั้งหลายติดอยู่ในโลก
ขึ้นบนสุด
 
ท่านผู้ที่สนใจต้องการจัดพิมพ์หนังสือธรรมะ
  "เพชรน้ำเอก" เล่ม 1,2,3 
เผยแพร่เป็นวิทยาทาน ติดต่อได้ที่
เณรน้อย
เสบียงบุญ
กลับสู่เมนูหลัก
       นางจิญจมาณวิกา...รับจ้างจากพวกเดียรถีย์ ทําทีเป็นตั้งครรภ์กับพระพุทธเจ้าโดยกลึงไม้ใส่ท้องให้นูน ทุบมือและเท้าให้บวม ภายหลังเมื่อความจริงปรากฏ นางถูกประชาทัณฑ์หนีออกไปนอกวิหารและถูกธรณีสูบ พระพุทธเจ้าจึงตรัสภาษิตว่า...

คนที่ล่วงศีลข้อที่สี่
มักพูดเท็จ ไม่คำนึงถึงปรโลก
จะไม่ทำความชั่ว ไม่มี

clergyman
6.9  ไม่พ้นปรโลก
       พระเจ้าปเสนทิโกศล...ถวายอสทิสทานได้สําเร็จด้วยคําแนะนําของพระนางมัลลิกาเทวี บัดนั้นชุณหอํามาตย์ได้มีจิตโมทนา ส่นกาฬอํามาตย์มีจิตขุ่นเคืองความฟุ่มเฟือยของพระราชา พระพุทธเจ้าทราบวาระจิตของอํามาตย์ทั้งสองเล็งเห็นว่าหากกระทําอนุโมทนากถา ศีรษะของกาฬอํามาตย์จักแตกเป็น ๗ เสี่ยง พระองค์จึงไม่กล่าวอนุโมทนากถา พระเจ้า ปเสนทิโกศลทูลถามถึงความที่พระองค์ไม่กล่าวอนุโมทนากถา ทราบความแล้วพระองค์จึงเนรเทศกาฬอํามาตย์เสียจากพระนคร พระพุทธเจ้าจึงตรัสภาษิตว่า...

แน่นอน “คนตระหนี่” ไม่มีโอกาสไปเทวโลก
“คนโง่”ไม่สรรเสริญการให้
แต่ “คนฉลาด” ยินดีให้ทาน
นี่แลที่บันดาลให้เขาได้รับสุขในปรภพ
clergyman
6.10  "คนตระหนี่" "คนโง่" "คนฉลาด"
       พระพุทธเจ้า...เสด็จเข้าสู่กรุงกบิลพัสดุ์เป็นครั้งแรกนับแต่บรรลุ อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ พระเจ้าสุทโธทนะติเตียนว่าเที่ยวบิณฑบาตดุจขอทาน ประพฤติองค์ไม่สมแก่วงศ์แห่งตน พระพุทธเจ้าจึงตรัสว่าการบิณฑบาตเป็นการควรแห่งวงศ์พระพุทธเจ้าทั้งหลายพร้อมตรัสภาษิตว่า...

ลุกขึ้นเถิด อย่ามัวประมาทอยู่เลย
จงประพฤติสุจริตธรรม
เพราะผู้ประพฤติธรรมย่อมอยู่เป็นสุข
ทั้งในโลกนี้และโลกหน้า

buddha
6.2  ผู้มีธรรมย่อมเป็นสุข