จิตเดิมแท้ของเรานั้นทุกคนนั้นมาจากธรรมชาติอันบริสุทธิ์
ท่านเคยรู้ไหมว่า บาปกรรมของการ ทำแท้ง นั้น
เท่ากับ ฆ่าพระอรหันต์หนึ่งองค์
ในอายุวัฒนสูตร พระพุทธองค์ตรัสถึงบาปกรรมของการทำแท้ง...จัดอยู่ในอนันตริยกรรม อันเป็นบาปที่มีโทษหนักที่สุด...5 ประการ
1. ฆ่าบิดา
2. ฆ่ามารดา
3. ฆ่าพระอรหันต์
4. ทำให้สงฆ์แตก แยก
5. ทำร้ายพระวรกายพระพุทธเจ้าห้อเลือด...
โอวาทพระโพธิสัตว์กวนอิม ให้เห็นประจักษ์ถึงบาปกรรมของการทำแท้ง
เปล่าเปลี่ยวอ้างว้างและเดียวดาย เหมือนแสงไฟสาดส่องให้เห็นได้ มีความสุขชุ่มชื่นดั่งอุ่นไอ มอบให้ใช้เกิดกายมาเป็นคน พลันแล้วหมู่เมฆกลับมืดครึ้ม ความทุกข์เจ็บสาหัสรุมชักตรอมตรึง ดับซึ่งแสงริบหรี่ที่ออกมา ในวันนี้ขอเพียงเมธีได้รู้ค่า ได้เกิดมาชมโลกที่สวยงาม เราคือ โพธิสัตว์ในชุดขาว รับพระบัญชาจาก องค์อนุตตรธรรมมารดา ลงสู่แดนโลกีย์ แฝงกายกตัญชลี องค์ธรรมมารดาเจ้า ได้พาวิญญาณน้อยมาสู่ประจักษ์ สายตาได้เห็น
สรุป ใจความสำคัญพระโอวาท พระโพธิสัตว์กวนอิมเมตตา พระโพธิสัตว์กวนอิมตรัส... ?หากเรามีความเชื่อมั่นและมีความจริงใจ??ผลสนองนั้น ย่อมประจักษ์ได้? ยุคกาลเวลาคับขันในปัจจุบัน ทั้งสามภพภูมิ (เทพ ผี มนุษย์) ต่างได้รับการฉุดช่วยพร้อมทั่วกัน ยิ่งมนุษย์เรายังมีกายสังขาร สามารถประกอบคุณงามความดีได้ทุกอย่างเป็นสิ่งดียิ่ง...
ขอ ให้มีความเชื่อมั่นว่าเวรกรรมมีจริง หากมีความเชื่อมั่น เช่นนี้ก็จะเกิดความระมัดระวังสำรวมยิ่งขึ้น เพราะกระทำสิ่งใดไว้ ย่อมได้รับผลสนองนั้นอย่างหลีกหนีไม่พ้นดั่งเงาตามตัว... ปัจจุบันการโปรดสามภพเป็นเรื่องที่น่ายินดียิ่งและเป็นภาระ หนัก ต้องมีปณิธานที่ยิ่งใหญ่ จึงสามารถร่วมมือร่วมใจ ร่วมแรง ร่วมพลังฉุดช่วยสามภพได้ เบื้องบนอาศัยมนุษย์เป็นผู้ประกาศ สัจธรรมแทนฟ้า ซึ่งเป็นผู้บำเพ็ญเพียรเรียนรู้สัจธรรมแห่งชีวิต เฉกเช่นพระโพธิสัตว์ที่รู้ซึ้งถึงการเกิดแก่เจ็บตาย หากรู้แล้วไม่นำ ไปปฏิบัติเป็นเรื่องที่น่าเสียดายยิ่ง เพราะสัจธรรมที่ประเสริฐเหล่านี้ อาศัยระยะเวลายาวนานกว่าจะได้มารับรู้ แต่มาบัดนี้เราเพียงอาศัย เวลาไม่นาน เงินทำบุญเพียงเล็กน้อย และที่สำคัญอาศัยบุญ สัมพันธ์ของเราจึงได้รับรู้สัจธรรมนี้... เพราะฉะนั้น อย่าได้ดูแคลนบุญสัมพันธ์ของเราที่เคยสร้างไว้ ในอดีตกาล สั่งสมมาถึงปัจจุบัน อีกทั้งบุญกุศลของบรรพชนที่ได้ สร้างสมมานาน จึงส่งผลให้เราไม่หลงงมงาย สิ่งเหล่านี้มิได้เกิด ขึ้นอย่างเลื่อนลอยหรือไร้ซึ่งเหตุผล แต่มีความเป็นมาและเป็นไป... แม้วันนี้เราจะยังไม่กระจ่างแจ้งในบทกตัญญู แต่ควรเรียก จิตใต้สำนึกพุทธจิตในตัวเราออกมา เพื่อขอขมากรรมสำนึกความ ผิดบาปทางกายวาจาและใจที่เคยสร้างไว้ วันนี้ถือเป็นโอกาสดีที่ได้ สำนึกขอขมากรรมในสิ่งที่เคยทำผิดบาปตั้งแต่เล็กจนโต ไม่ว่าด้วย
เจตนา หรือไม่ ขอให้สำนึกด้วยใจจริง อย่าได้ทำด้วยความเสแสร้ง เพียงเพื่อแสดงให้เห็นเท่านั้น ตัวเราเท่านั้นที่รู้ ไม่สามารถหลอก ผู้อื่นได้ หรือจะมีใครที่กล้าพูดว่าไม่เคยทำผิดบาปหรือไม่เคยสร้าง ความลำบากใจให้แก่บิดามารดา ซึ่งล้วนมีกันทุกคน วันนี้ถือเป็น โอกาสดีงามที่ได้สำนึกขอขมาด้วยใจจริง การสำนึกขอขมาแม้จะเป็น เพียงกระแสจิตแต่ก็สามารถรับรู้ได้ แม้เป็นเพียงเวลาสั้นๆ แต่ก็ ได้มีจิตสำนึกด้วยใจจริง มีบางคนเท่านั้นที่สำนึกได้แต่บางคนก็ยัง มิทันได้สำนึก เพราะความไม่แน่ใจ เพราะความลังเลสงสัย โอกาส ผ่านไปแล้วไม่มีสิ่งใดย้อนหวนกลับมาได้เฉกเช่นวันเวลา...บุญคุณพ่อแม่ต้อง ตอบแทน?? กตัญญูต้องมีประจำในจิตใจ???? กตัญญูคือคุณธรรมพื้นฐาน ( พระโพธิสัตว์พักให้โอวาทครู่หนึ่ง...) มิต้องตกใจกับเสียงร้องไห้... นั่นเป็นวิญญาณทารกคนหนึ่ง ที่ติดตามเรามา ตอนนี้ให้ติดตามดูความเป็นมาของวิญญาณทารก น้อยผู้นี้ว่าทำไมถึงร้องไห้ ทำไมถึงต้องมา... นี่คือเรื่องเวรกรรม ซึ่งจะนำพาวิญญาณทารกน้อยเข้ามา ผูกบุญสัมพันธ์กับทุกท่าน...
ความทารุณโหดร้ายของการทำแท้งใจคนช่างแสนโหดร้าย ลอบทำลายญาณบริสุทธิ์ใสทารกน้อยไร้พิษผองภัย แต่พ่อแม่ยื่นโทษประหารให้ดับชีวี
หลัง จากนั้น...พระโพธิสัตว์กวนอิมได้ถอนทิพยญาณออก จากร่างสามคุณ สักครู่ต่อมาวิญญาณทารกน้อยได้เข้าร่างสามคุณ ขณะนั้นอาจารย์ถ่ายทอดธรรมจูกั๋วจื้อเป็นประธาน อาจารย์จูเมตตาให้วิญญาณทารกน้อยแจ้งนามและเล่าความเป็นมา... วิญญาณเด็กทารกร้องไห้งอแง...ร้องขอผ้าห่ม... หนาวสั่น สะท้านไปทั้งตัว สักครู่จึงมีเสียงพูดออกมาความว่า... เรายังเล็กนัก... ยังไม่มีชื่อ... ยังเป็นเด็กทารกเล็กๆ ที่อยู่ใน ครรภ์มารดา ก็ถูกแม่ใจร้ายทำแท้งเสียก่อน... ตอนที่เป็นวิญญาณมีความรู้สึกดีใจ... เพราะกำลังจะได้มา เกิด... แต่พอใกล้เกิด แม่ก็ทำให้แท้งออกมา... ทั้งที่ได้เข้าฝันแม่ ขอร้องแม่ให้เก็บลูกไว้... แต่พ่อแม่ใจร้ายไม่มีความรับผิดชอบ... รู้สึกอิจฉาคนที่มีครอบครัวพร้อมหน้าพร้อมตา... อยู่อย่าง มีความสุข แต่หนูกลับต้องอาภัพไม่ได้เกิดมามองดูโลกทั้งที่เป็น ทารกแล้ว... ไม่กี่เดือนก็จะคลอด ยังทำได้ลงคอ... ไม่อยากบอกว่าชายหญิงคู่นั้นที่เป็นพ่อแม่คือใคร... สองคน นี้เป็นคนที่ทำงานกันคนละที่ พอถึงเวลาก็มาพบเจอกัน เพราะ มีบุญสัมพันธ์กัน หนูจึงได้มาเกิดอยู่ในท้อง... แม่ไม่เชื่อที่หนูเข้าฝันขอร้อง... กลับทำแท้งออกมาแล้วนำไป ฝังไว้... หายใจไม่ออกจนตาย... ร่างสลายเป็นผุยผง...
วิญญาณ จึงออกไปตามหาพ่อแม่ แต่ก็ไม่พบเจออีก เพราะ วิญญาณหนูถูกจับไปอยู่ในที่ที่ของเด็กอยู่ ไม่มีโอกาสที่จะไป ต่อรองกับแม่คนนั้นได้อีก... เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นผ่านไปไม่นาน... แม่เป็นชาวบ้านอยู่ใน ชนบท... แม่พาไปฝังไว้ในสวนหลังบ้าน...
ขณะ ที่วิญญาณทารกเล่าถึงตรงนี้... ก็มีเสียงร้องไห้ดังขึ้น ในกลุ่มญาติธรรมฝ่ายหญิง ท่านอาจารย์ถ่ายทอดธรรมซุน ได้เดิน เข้าไปหาสตรีผู้นั้นแล้วปลอบใจให้สงบลง... เมื่อเหตุการณ์สงบลงแล้ว วิญญาณทารกจึงได้เล่าต่อว่า... เราเป็นเพียงวิญญาณเด็ก... ล่องลอยจนไปพบพระโพธิสัตว์ กวนอิม จึงต้องการขอความเมตตาจากพระองค์ ซึ่งไม่รู้ว่าจะมาก เกินไปไหม !... วิญญาณทารกน้อยนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง... บรรยากาศในชั้นประชุมเงียบสงัด จู่ ๆ ญาติธรรมคนที่ ร้องไห้เมื่อสักครู่ปล่อยเสียงร้องโฮขึ้นมาอีก แต่คราวนี้ได้ลุกขึ้น แล้วพูดสารภาพความผิดของตนยอมรับว่าตนเองก็คือแม่ของเด็ก ทารกน้อยนั่นเอง... แม่ของวิญญาณเด็กก็คือ คุณอัมพร ซึ่งเป็นญาติธรรม ของพุทธสถานเมธาชุมนุม ( จวี้เสียนฝอถัง ) จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งมีคุณดวงใจ เป็นผู้ส่งเสริมและพามาช่วยงานในชั้นประชุมพุทธา ภิเษกสามวันครั้งนี้... คุณอัมพร ขณะนั้นร้องห่มร้องไห้ด้วยความเสียใจอย่างยิ่ง ซบไหล่อาจารย์ซุนเดินออกมาหน้าชั้น แล้วโผเข้ากอดร่างสามคุณ ร่ำร้องพูดพร่ำพรรณา แล้วกล่าวขอโทษขอขมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า ท่าม กลางความรู้สึกที่สะเทือนใจของญาติธรรมในชั้นประชุม... บรรยากาศในห้องประชุมขณะนั้นเต็มไปด้วยความเศร้าโศก เสียใจและเสียงร่ำไห้ระหว่างแม่และลูก...
วิญญาณ เด็กได้พูดกับแม่ของตนเองว่า... เพื่อไม่ให้แม่มีความผิดบาป ขอให้เล่าการกระทำทั้งหมด ออกมาด้วยความจริง เพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้กับคนที่คิดจะทำแท้ง อย่าได้คิดกระทำต่อไป เพื่อเป็นการสร้างบุญไถ่บาป และตนจะ อโหสิกรรมให้กับแม่ เพราะถ้าไม่ยอมเล่า ตนก็ยังไม่ได้ไปเกิดใหม่ ทารกน้อยจึงอ้อนวอนขอให้คุณอัมพร เล่าเหตุการณ์ที่ได้ทำ แท้งให้เป็นที่ประจักษ์ แต่คุณอัมพรกำลังอยู่ในอารมณ์โศกเศร้า จิตใจว้าวุ่นสับสนเกินกว่าที่จะเรียบเรียงเหตุการณ์ออกมาได้... จนเวลาผ่านไป...วิญญาณทารกก็ยังพยายามคะยั้นคะยอ อ้อนวอนให้แม่สารภาพความจริง เพื่อตนจะได้รับบุญกุศลให้ได้ไป เกิดใหม่ในครอบครัวของผู้บำเพ็ญธรรม... ทารกน้อยพยายามอ้อนวอนแล้วอ้อนวอนอีกจนคุณอัมพร รับปากว่าจะพูดความจริง ด้วยความเป็นห่วงเป็นใยแม่ของตน เกรงว่าวันข้างหน้าจะถูกซ้ำเติมครหาจากผู้ร่วมบำเพ็ญ จนทนบำเพ็ญ ต่อไปไม่ได้ วิญญาณทารกน้อยจึงขอคำมั่นสัญญาจากผู้เข้าประชุม อย่าได้ต่อว่าซ้ำเติมให้คุณแม่ได้รับความอับอาย... ซึ่งทุกคนในชั้น ก็ให้สัญญา... หลังจากนั้นคุณอัมพรได้ลุกออกจากหน้าชั้นประชุมกลับเข้า ประจำที่นั่ง วิญญาณเด็กได้กล่าวต่อไปว่า... ทันทีที่แม่ของหนูได้สารภาพความจริงออกมา จะก่อเกิดบุญ กุศลให้หนู และก็ใกล้เวลาที่จะได้ไปเกิดใหม่ หนูอยากเกิดใน
ครอบ ครัวบำเพ็ญธรรม ไม่อยากเวียนว่าย ไม่อยากทุกข์ทรมานอีก อาจารย์จูได้เมตตาชี้แนะและกล่าวกับวิญญาณทารกน้อย ให้ไปขอกับพระอาจารย์จี้กง ให้พระอาจารย์จี้กงเป็นประธาน โอกาส ข้างหน้าเมื่อได้รับวิถีธรรมแล้ว ขอให้รีบเร่งปฎิบัติบำเพ็ญ จิตญาณ จะได้หลุดพ้นกลับคืน... แต่ตอนนี้ขอให้ปล่อยวางความแค้น ความขุ่นเคือง ความ รู้สึกที่ไม่ดีออกไป ให้อโสหิกรรมแก่คุณแม่... วันนี้ที่มีโอกาสเข้ามาในพุทธสถาน ต้องสำนึกคุณต่อพระแม่ องค์ธรรม พระโพธิสัตว์กวนอิมเมตตานำพาดวงวิญญาณเข้ามา ปรากฏที่นี่ ทำให้ผู้คนได้รับรู้เรื่องราวนี้ได้เป็นอุทาหรณ์ มิให้ผู้อื่น ไปกระทำผิดอีก ก็จะได้บุญกุศล...
วิญญาณ ได้กล่าวต่อไปว่า... แม้หนูจะเป็นวิญญาณเด็กทารก... ถึงแม้ว่ายังไม่ได้คลอด ออกมา แต่จิตวิญญาณของหนูก็สามารถรับรู้ถึงทุกสิ่ง... เพราะ วิญญาณของหนูอยู่อีกสภาวะหนึ่ง... ขอกล่าวเตือนทุกคนที่มีลูกหลาน... อย่าได้กระทำเช่นนี้เลย เป็นบาปกรรมที่หนักยิ่ง ทั้งผู้กระทำและผู้สนับสนุนในการกระทำ บาปเช่นนี้ทำคนเดียวไม่สำเร็จ ต้องอาศัยหลายคนช่วยกัน... ดังนั้น หากพบลูกหลานคิดจะทำแท้ง... ต้องช่วยกันเตือน บอกกล่าวให้รู้ว่า การทำแท้งผิดบาปยิ่งนัก อย่าให้สังคมต้องตกต่ำ มากไปกว่านี้อีกเลย โปรดให้เด็กที่จะมาเกิดได้มีโอกาสเกิดมาเป็น คนด้วยเถิด... ให้เขาได้มีโอกาสสร้างบุญ เพราะนั่นแสดงว่าถึง เวลาของเขาแล้วที่จะมาเกิด หากไม่ให้เขาเกิดมาเราก็มีความผิด เพราะเราไม่มีสิทธิ์จะไปตัดสินชะตาชีวิตของใคร... บางคนทำแท้งออกมาแล้ว ยังเอาร่างของเด็กนั้นไปทำสิ่ง ต่างๆนานา สะกดมนต์ ให้เด็กนั้นอยู่ในความดูแลของตัวเอง ซึ่งเป็นบาปมหันต์... ความจริงแล้วเราไม่มีสิทธิ์จะไปบงการชีวิตของใครๆ ได้เลย เพราะชะตาชีวิตของแต่ละคนจะไปกำหนดบงการเขาไม่ได้... ส่วนตัวหนูขณะนี้ก็กำลังรอบุญกุศลจากแม่ เพื่อเตรียมตัว จะได้ไปเกิดในครอบครัวผู้บำเพ็ญ และก็มีบุญสัมพันธ์กับหญิง คนหนึ่งที่ตั้งครรภ์ในห้องประชุมนี้...
อาจารย์ จูจึงเมตตาเชิญคุณดวงใจ ซึ่งเป็นบุคลากรของสถาน ธรรม ขณะนั้นคุณดวงใจกำลังตั้งครรภ์ได้ 7 เดือน พร้อมทั้งสามี คือ คุณกิตติพงษ์ ให้ออกมาหน้าชั้นนั่งข้างๆ ร่างสามคุณ... อาจารย์ถ่ายทอดธรรมและญาติธรรมต่างแสดงความยินดี กับวิญญาณเด็กทารก รวมทั้งคุณดวงใจและคุณกิตติพงษ์ด้วย คุณดวงใจและคุณอัมพรแม่ของวิญญาณเด็กมีบุญสัมพันธ์ ร่วมกัน คุณดวงใจเป็นผู้ส่งเสริมนำพาคุณอัมพรมาโดยตลอด ชีวิต ครอบครัวของคุณดวงใจที่ผ่านมาเคยประสบปัญหาเศรษกิจถึงขั้น วิกฤต ภาวะจิตใจถูกกดดันอย่างหนัก จึงทำให้เกิดความคิดจะทำ แท้ง แต่ด้วยจิตที่มุ่งมั่นและศรัทธาในธรรม เข้าใจในกฎแห่งกรรม อดทนอดกลั้นจนสามารถฟันฝ่าเอาชนะความคิดอันเลวร้ายได้ และ เปลี่ยนใจรักษาครรภ์เอาไว้จนได้มาประสบเหตุการณ์นี้...
วิญญาณ ทารกได้วอนขอให้คุณดวงใจและคุณกิตติพงษ์ ยอมรับเขาไว้ให้เกิดมาเป็นลูก จะขอเป็นเด็กดี ได้มีโอกาสบำเพ็ญ ปฏิบัติธรรม ซึ่งทั้งคู่ได้รับปากไว้ด้วยความยินดี จะให้ทารกน้อย ได้เกิดมา ไม่ต้องกังวล... วิญญาณทารกน้อยยังกล่าวว่า... ช่วงแรกพ่อแม่ต้องทนลำบาก อีกหน่อยก็จะไม่ลำบาก และ ขอขอบคุณพระโพธิสัตว์กวนอิมเมตตา... ขอบคุณร่างสามคุณ อาจารย์ บุคลากรและญาติธรรมทุกท่าน... เมื่อพูดจบ วิญญาณทารกน้อยถอนญาณจากร่างสามคุณ บุคลากรพาร่างสามคุณไปห้องพัก สักครู่หนึ่งพระโพธิสัตว์กวนอิม ก็ได้เสด็จประทับทิพยญาณอีกครั้ง พร้อมกับได้เมตตาประทาน โอวาทกับคุณดวงใจและคุณกิตติพงษ์ว่า... เมื่อเด็กได้เกิดออกมาแล้ว ให้ดูแลเขาให้ดี... เขาอาจจะดื้อ บ้างตามธรรมชาติของเด็ก...อย่าได้ถือสา เมื่อเขาโตขึ้นให้หมั่น ตอกย้ำปณิธานของเขา... ช่วงนี้ชีวิตของทั้งคู่ดูเหมือนย่ำแย่ แต่ขอ ให้ทั้งสองอดทนฝ่าฟันไปแล้วทุกอย่างจะค่อยๆ ดีขึ้น... พระองค์ยังเมตตากล่าวกับบุคลากรทุกคนว่า... เรื่องราวที่เกิดขึ้นให้นำไปตีพิมพ์เป็นหนังสือ... เพื่อเป็น อุทาหรณ์เครื่องเตือนใจหนุ่มสาวในปัจจุบัน ให้รู้ว่าการทำแท้งเป็น บาปกรรมติดตามตัว จะปฎิเสธหรือหลบหลีกก็ไม่พ้น...
พระ โพธิสัตว์ยังเมตตาคุณอัมพร ให้เล่าความจริงออกมา เพื่อเป็นบุญกุศลแก่วิญญาณเด็กน้อย แต่คุณอัมพรอยู่ในภาวะ เศร้าโศกสับสนเครียดเกินกว่าจะเล่า อาจารย์จางหยูเอวี้ยนจึงได้ พูดขึ้นว่า... หากคุณอัมพรไม่เล่า... ก็จะให้พระโพธิสัตว์กวนอิม เล่าเอง ซึ่งคุณอัมพรพยักหน้ายินยอม เพราะตนยังสับสนอยู่มาก พระโพธิสัตว์ได้กล่าวเมตตาให้คุณอัมพร ทบทวนให้ดีว่าได้ กระทำสิ่งใดลงไป...ได้นำสิ่งใดไปฝัง ทำไมวิญญาณเด็กถึงบอกว่า หายใจไม่ออก... คุณอัมพรก็หายใจไม่ออก...ให้ตั้งสติคิดให้ถี่ถ้วน แล้วเล่าออกมา เพราะวิญญาณเด็กนอนฟังอยู่ข้างๆ... บรรยากาศในขณะนั้นเต็มไปด้วยความตึงเครียด เพราะ คุณอัมพรไม่สามารถเล่าเรื่องออกมาได้...
พระ โพธิสัตว์ฯ ได้กำชับบุคลากรอีกครั้ง ให้จัดเรียบเรียง นำเรื่องที่คุณอัมพรเล่าไปตีพิมพ์เป็นหนังสือเพื่อเป็นอุทาหรณ์ เตือนใจชาวโลกในปัจจุบันมิให้กระทำเรื่องราวที่ผิดบาปเช่นนี้ เมื่อ พระโพธิสัตว์กล่าวจบก็ได้ถอนทิพยญาณออกจากร่างสามคุณ... หลังจากนั้นในเวลาประมาณหนึ่งทุ่มเศษ คุณอัมพรได้เริ่ม เล่าเหตุการณ์ของตนในอดีตที่ผ่านมาให้นักบรรยายแซ่ฮวั๋งฟังสอง ต่อสองในห้องพัก... คุณอัมพรได้เล่าว่า... เมื่อสามปีที่แล้ว... เดิมทีตนเองพักอยู่ที่กรุงเทพฯ หลังจาก มีแฟนจึงย้ายมาอยู่กับคุณแม่ที่อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี... ในช่วงเวลานั้น... ตนเองรู้สึกว่าน้ำหนักตัวเพิ่ม เริ่มท้วมขึ้น กลัวไม่สวย กังวลว่าแฟนจะทิ้ง เนื่องจากขณะนั้นแฟนซึ่งมีอาชีพ เป็นนักดนตรี ไปเป็นทหารเกณฑ์อยู่ที่จังหวัดกาญจนบุรี และ มีนิสัยค่อนข้างเจ้าชู้... ความคิดที่จะลดน้ำหนักจึงเกิดขึ้น... ก็เลยกลับไปปรึกษา คุณแม่ ให้คุณแม่ไปซื้อยาลดความอ้วนชนิดแคปซูลและสมุนไพร มาต้มอยู่ในกระโจม ในวันแรกที่อบสมุนไพรก็ยังไม่มีอะไรผิดปกติ จนมาถึงวันที่สอง... ร่างกายชักเริ่มออกอาการ รู้สึกหายใจ ไม่ค่อยสะดวก จุกเสียด...แน่นหน้าอก...เหมือนจะเป็นลม จากนั้น มีเลือดไหลออกมาทางช่องคลอด... ร่างกายอ่อนเปลี้ยเพลียแรง จึงเข้าไปพักผ่อน...
คิด ในใจว่าตัวเองตั้งครรภ์หรือเปล่า... เพราะช่วงนี้อยาก รับประทานของเปรี้ยวๆ... รู้สึกคลื่นเหียนอาเจียนจนผิดสังเกต ญาติพี่น้องตั้งข้อสงสัยว่าอาจจะแพ้ท้อง... ในตอนนั้น...ความรู้สึกลึกๆ ของตนก็ชักเอะใจเหมือนกันว่า ตนคงตั้งท้องเป็นแน่... แต่เพราะความกังวลเรื่องความอ้วน กลัว แฟนจะทิ้ง... จึงลืมเรื่องผิดชอบชั่วดี ละเลยความรู้สึกนี้ไป... จนใน ที่สุดก็ยังคงจะลดความอ้วนต่อไปอย่างไม่ลดละความพยายาม... อบสมุนไพร...ซ้ำแล้วซ้ำเล่า แม้จะมีอาการจุกเสียดหายใจ ไม่ออกก็ตาม ยังอุตส่าห์ส่ายตะโพก ซิทอัพทั้งท่ายืนและท่านอน ใช้มือทั้งตบทั้งตีหน้าท้องของตนด้วยความรุนแรง เพื่อรีดไขมันให้ ละลาย ยอมอดทนทำทุกวิถีทางเพื่อให้น้ำหนักตัวลด หวังว่าแฟน กลับมาจะได้มองไม่เห็นความอ้วน... ด้วยความกลุ้มกังวล...แคร์ความรู้สึกของแฟนมาก จนบาง ครั้งเคยตัดพ้อตนเองและระบายความกดดันที่ตนเก็บกดให้กับคุณ แม่ฟังว่า...ถ้าเรื่องตั้งครรภ์เป็นความจริง จะเอาไม้แขวนเสื้อแทง ก้อนเลือดในครรภ์ให้แท้งอย่างกับในทีวีเลย... และแล้วอยู่มาวันหนึ่ง...ขณะอาบน้ำ ได้มีเลือดไหลออกมา กองบนพื้น... ทั้งที่รู้เห็น...แต่คุณอัมพรก็ไม่ทันฉุกคิด ถึงแม้ว่า ผ้าอนามัยที่ใช้อยู่จะมีก้อนเลือดและก้อนเนื้อติดออกมาด้วย...
จาก นั้น...คุณอัมพรจึงได้นำผ้าอนามัยและก้อนเลือดไปฝัง ไว้ที่ลานอาบน้ำใต้ต้นมะม่วง... ก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น คุณอัมพรเคยฝันว่ามีเด็ก มาหา...นำแหวนมาสวมให้ที่นิ้วมือ... แต่ไม่ได้เก็บมาใส่ใจ คิดว่า เป็นแค่เพียงความฝัน... และก่อนจะมาร่วมงานประชุมพุทธาภิเษก คุณอัมพรก็ได้ ฝันเห็นเด็กมาหา...และก็เข้าไปอุ้ม... ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าทำไมจึงเกิด ความผูกพันรักใคร่กับเด็กน้อยคนนี้มาก... ครั้นตื่นขึ้นมา...ก็นึกไม่ออกว่าทำไมถึงฝันเห็นเด็กน้อยคน นั้นอีก แล้วทำไมจึงรู้สึกผูกพันกับเด็กน้อยที่อยู่ในความฝันเสีย เหลือเกิน...
จาก วันนั้นจนมาถึงงานประชุมในวันนี้... ซึ่งตรงกับวันทำบุญ ครบ 100 วัน (เสียชีวิตแม่) ญาติๆ ได้เลื่อนกำหนดวันทำบุญให้แก่ คุณแม่ออกไป จึงทำให้คุณอัมพรได้เข้าไปหาคุณดวงใจและคุณ กิตติพงษ์ ทั้งสองจึงชวนมาร่วมงานประชุมธรรม ตั้งใจว่าจะตาม มาช่วยแค่เพียงวันเดียว... วันแรกของการประชุม สิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้เสด็จประทับญาณ ท่านคือมหาเทพฮั่นจงหลี่ (หนึ่งในแปดเซียน)... พระองค์ได้ขอให้ ทุกคนอยู่ให้ครบทั้งสามวัน คุณอัมพรจึงจนใจต้องมาในวันที่สอง อีกครั้ง จนได้มาพบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้... คุณอัมพร เล่าเหตุการณ์ครั้งแรกที่ได้ยินเสียงร้องไห้ของ วิญญาณทารกน้อย...รู้สึกบาดใจอย่างบอกไม่ถูก... จิตใจแสนปวด ร้าว... ยิ่งเข้าไปอยู่ใกล้ร่างสามคุณ...ได้สวมกอด... เห็นสีหน้าและ แววตาของลูกที่มองตน สัญชาตญาณในสายเลือดสายสัมพันธ์ ทำให้สัมผัสได้ทันทีว่า...นี่คือลูกของเรา... ในใจคิดว่าเป็นวิบากกรรมในอดีตชาติ คาดไม่ถึงเลยว่าเป็น ดวงวิญญาณของทารกที่เราได้ทำแท้งในเมื่อไม่นานนี้เอง... ด้วยความรู้สึกสำนึกต่อความผิดที่ตนได้กระทำพลั้งไป จึง พยายามขอโทษและขอขมาทารกน้อยในสิ่งที่ตนเองได้กระทำและ สำนึกผิดด้วยใจจริง... อยากจะเตือนทุกคนอย่าได้คิดทำแท้ง ถึงแม้จะตั้งใจหรือ ไม่ตั้งใจก็ตาม ล้วนเป็นความผิดบาปมหันต์... เป็นมลทินที่ติดตรึง ฝังใจเราไปตลอดกาล...
เข้า สู่วันที่สามของการประชุมธรรม พระพุทธะจี้กงได้ประทับทิพยญาณเมตตา กล่าวกับคุณอัมพรว่า... เรื่องราวที่เกิดขึ้นไม่มีใครปรักปรำ กรรมใดใครก่อ...เมื่อ ถึงเวลาย่อมได้รับด้วยตนเอง เวลาที่วิญญาณทารกน้อยยืมร่าง สามคุณและได้ร่ำไห้ ทำไมคนตั้งมากมายไม่รู้สึกเจ็บปวดใจ แต่ ทำไมเจ้ากลับรู้สึก สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับคนเราไม่สามารถเกิดขึ้น โดยไร้เหตุปัจจัย... ในช่วงชั่วโมง "เสียงสะท้อนจากใจ" อาจารย์ถ่ายทอดธรรม เมตตาให้ญาติธรรมในชั้นออกมาพูดความในใจ มีพยาบาลท่าน หนึ่งออกมาสารภาพว่า... ตนเคยเป็นผู้ช่วยแพทย์ทำแท้งมาก่อน ตอนที่วิญญาณทารกมาปรากฎ ตนรู้สึกเสียวแปล๊บถึงสันหลัง ภาพ ของผู้หญิงที่ตนเคยช่วยทำแท้งขึ้นมาหลอนให้เห็นอยู่ตลอด... หลังจากปิดประชุมแล้วมีญาติธรรมหญิงหลายท่าน ได้เข้า มาสารภาพว่า...ตนเองก็เคยทำมาก่อน รู้สึกละอายใจเหลือเกิน !...
เหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ เนื่องมาจากเหตุปัจจัยสุกงอม และบุญสัมพันธ์ร่วมกันของญาติธรรมที่เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ ได้เกี่ยวกรรมในเรื่องทำแท้ง ด้วยเหตุนี้ พระโพธิสัตว์กวนอิมจึง ได้นำพาดวงวิญญาณทารกน้อยที่ถูกทำแท้งมาเป็นประจักษ์นั่นเอง ขอบคุณพระโพธิสัตว์กวนอิมเมตตา... " น้องนีน " ( วิญญาณทารกน้อยที่ถูกทำแท้งมาถือกำเนิดใหม่ในครอบครัวผู้บำเพ็ญ ภาพนี้ถ่ายเมื่อ 10 มกราคม 2549 -- อายุ 1 ขวบ 4 เดือน )