จิตเดิมแท้ของเรานั้นทุกคนนั้นมาจากธรรมชาติอันบริสุทธิ์
สำหรับเด็กๆ หลายคน ซึ่งมีความสงสัยเกี่ยวกับพระเจ้า และจักรวาลที่พระองค์ทรงสร้างขึ้น นี่คือ เรื่องราวอันเป็นอมตะ เรื่องราวเกี่ยวกับจักรวาลที่เล่าถึงความรัก ซึ่งได้รับการพูดถึงในทุกๆ ปรัชญาความเชื่อ...
ในหัวใจของเด็กๆ ทุกคนมีเมล็ดพันธุ์ของความรัก และความปารถนาอันบริสุทธิ์ที่จะรู้เรื่องราวเกี่ยวกับพระเจ้า... ขอให้เรื่องเล่าต่อไปนี้นำเธอสู่การเดินทางสำรวจ สู่การค้นพบสัจจะ จากเรื่องราวง่ายๆ ที่น่าอัศจรรย์และแสนสนุก...
ขอให้เด็กๆ ทุกคนไม่ว่าจะเป็นเชื้อชาติใด... ปรัชญาความเชื่อใด... พบแรงบันดาลใจจากเรื่องเล่าต่อไปนี้.... ซึ่งก็คือ...ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงแหล่งกำเนิดของเรา...
...การเดินทางอันยาวนานของชีวิต...และความเป็นไปได้อันน่าอัศจรรย์...ของการพบหนทางกลับสู่บ้าน...ซึ่งเป็นของพวกเราทุกคน...
เป็นเวลานานแสนนานมาแล้ว ตั้งแต่แรกเริ่มเลยทีเดียว ก่อนที่จะเริ่มมีเวลาเสียอีก...
มีพระเจ้า (พระองค์ธรรม,ผู้ให้กำเนิด)...และไม่มีอะไรอื่นเลยนอกจากพระเจ้า... ยังไม่มีท้องฟ้า... ไม่มีดาวเคราะห์ทั้งหลาย... ไม่มีดวงอาทิตย์ ....หรือดวงดาวต่างๆ.... ไม่มีผู้คนหรือสัตว์....นก ....หรือต้นไม้ต่างๆ ....
ไม่มีอะไรอีกเลยจริงๆ นอกจากพระเจ้า...
พระเจ้าทรงเป็นมหาสมุทรแห่งแสงสว่างอันมหัศจรรย์ที่เรียกว่า...ความรัก ...
ในมหาสมุทรอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้านี้มีหยดของแสงสว่างนับล้านหยด ซึ่งหลับใหลอยู่...
และเพราะว่า...พวกเขาต่างหลับใหลอยู่นั่นเอง... พวกเขาจึงไม้รู้ว่าพระเจ้านั้นยิ่งใหญ่งดงาม.... และสุกสว่างเพียงใด...
หยดแต่ละหยด...และทุกๆหยด...เป็นส่วนเล็กๆ ของมหาสมุทรอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้า...
หยดเล็กๆของแสงสว่าง...แต่ละหยดถูกเรียกว่า...จิตวิญญาณ...ในหยดเล็กๆ เหล่านั้นคือ...เธอ !
หลังจากช่วงระยะเวลาหนึ่ง....พระเจ้าประสงค์จะให้มีจักรวาลขึ้น...พระองค์จึงส่งคลื่นของเสียงและแสงอันสุกสว่างอย่างน่าอัศจรรย์ จากตัวของพระองค์เอง....และทรงสร้างจักรวาลทั้งจักรวาลจากคลื่นของเสียงและแสงนั้น....
พระองค์ทรงบันดาลท้องฟ้า...ดาวพระเคราะต่างๆ....ดวงอาทิตย์....ดวงจันทร์...และดวงดาวมากมาย...
พระองค์ทรงสร้างภูเขา.... หุบเขา....และทะเลทราย... มหาสมุทร.... ทะเลสาบ.... แม่น้ำและลำธารมากมาย....
จักรวาลนั้นกว้างใหญ่และสวยงาม...แต่ไม่มีสิ่งมีชีวิตอยู่ในจักรวารที่จะมีความสุขและเพลิดเพลินไปกับมัน....
ดังนั้น...พระเจ้าจึงตัดสินพระทัยที่จะจัดให้มีละครขึ้น....
โดยใช้...เหล่าวิญญาณของพระองค์เป็นนักแสดงต่างๆ...และใช้จักรวาลที่พระองค์สร้างใหม่ใช้เป็น...โรงละคร !...
พระเจ้าทรงเป็นผู้กำกับการแสดง... พระองค์ทรงเรียกชื่อละครของพระองค์ว่า... "ชีวิต"...
บรรดาวิญญาณเกือบทั้งหมด... ต่างก็ต้องการอยู่ในละครของพระองค์....
ดังนั้น...พระเจ้าจึงบอกพวกเขาว่า...."พวกเธอสามารถจากบ้านของพวกเธอในมหาสมุทรของแสง....และเดินทางลงไปเป็นผู้แสดงในโรงละครแห่งจักรวาลได้....."
แต่ยังมีวิญญาณเล็กๆ จำนวนน้อยมาก....ที่ไม่ต้องการจะไปเลย....
พวกเขาต้องการจะอยู่บ้านกับพระผู้เป็นเจ้าของพวกเขา.... แต่พระองค์ทรงบอกว่า.... แม้แต่พวกวิญญาณเหล่านี้ก็ต้องไป....และสนุกกับการอยู่ในละครของพระองค์เช่นเดียวกัน...
จากนั้น.... พระองค์ทรงทำเครื่องหมายของวิญญาณแต่ละวิญญาณที่ต้องการจะอยู่กับพระองค์...และให้สัญญากับพวกเขาว่า.... วันหนึ่ง...พระองค์จะเรียกหาพวกเขา....จะถูกนำกลับสู่บ้านที่แท้จริง ของพวกเขากับพระองค์....
พระองค์บอกกับวิญญาณอื่นๆ ทั้งหมดด้วยว่า... "ถ้าพวกเธอตัดสินใจว่า...พวกเธอต้องการที่จะกลับบ้านอีกครั้ง...พระองค์ก็จะมอบเครื่องหมาย (ตราประทับ) แก่พวกเธอเช่นกัน" ....
แล้ววันหนึ่ง...โดยความเมตตากรุณาอันไร้ขอบเขตของพระองค์... พระองค์จะทรงช่วยพวกเขา กลับบ้านที่แท้จริง เช่นเดียวกัน....
แต่ก่อนนั้นคนเฮาอยู่แดนนิพพาน.... เป็นบ้านเดิมของเฮาตั้งแต่เดิมคาเค้า... แม่องค์ธรรมพาย้ายลงมาโลกต่ำ... หกหมื่นปีเที่ยงแท้จนลืมบ้านเก่าหลัง... ดวงวิญญาณของเรานั้นรวมกันแต่ครั้งก่อน.... มีเก้าพันหกร้อยล้านดวง เที่ยงแท้จำไว้อย่าลืม... ให้ลูกคืนเมื่อห่องแดนนิพพานบ้านเก่า.... ได้ยินเสียงแม่เอิ้นเชิญเจ้าให้ตื่นนอน... โลกแห่งนับมื้อฮ้อน.... ให้นอนตื่นสาเด้อ ....แม่นี้เฮฮนทุกข์ห่วงบุตรตาน้อย.... แม่นี้คอยอดกั้นคืนวันน้ำตาหลั่ง คนิงลูกอ่อนน้อย.... ย้านตายค้างแก่ภัย.....ย้านลูกหมุดมอดเมี้ยนมระนาถเป็นผี....แม่จึงเวทนาทุกข์สู่วันแลงเช้า ....ให้ลูกหวนคืนค่ำค้ำขนิงของแม่แน่เด้อ....
เสียงแม่เฮิ้นจ้อย.... จ้อยหูน้อยให้เหงี่ยงฟัง.... แม่ได้เตรียมไว้ให้ ....คาถาดีห้าอย่าง.... ลัญจกรพร่ำพร้อมให้มาน้อมรับเอา.... จั่งสิเห็นทางเข้าแดนนิพพานบ้านเก่าไผผู้เปิ่น.... ลูกแก้วมาถึงแล้วให้รับเอา.... คาถานี้เป็นของแม่แจ่มเจ้าแต่ครั้งก่อนปางประถมให้ลูกแพงเพียร.... อด อย่าปล่อยใจไลล้าง.... ให้ลูกเมื่อถึงห้องแดนนิพพานคอยแม่.... แม่นสิทุกข์ท่อฟ้าอย่าหวังเว้นแวะทาง....ให้ลูกอดสาสู้ทางเดียวดั้นด่วน แม่เด้อ....
ขอให้สมมาดแม้น.... มโน.... เจ้าดั้งหมาย ....อย่าได้มาเวียนวนโลกต่ำ ....ให้ฟังคำแม่เว้าจำไว้ใส่ใจ.... สิได้ขึ้นชั้นฟ้าไปสู่แดนนิพพาน.... บ่อนสำราญเกษมสุขอยู่สบายหายฮ้อน.... ให้ลูกเดินมาถ้อนชวนกันให้รีบด่วน.... บ้านแห่งเหลืองเมืองแห่งฮ้อนนอนบ่อได้อิ่มตา.... แม่นี้เตรียมโต๋ถ้าคอยทางให้ลูกต่าวมาเด้อ.... ให้เจ้าฟ้าวรีบร้อนมาหาเจ้าแม่คิง.... ให้ลูกมาคอยท้า.... สถานธรรมแม่สิสั่งคำดีดี.... แม่สิบอกลูกแก้วฟังแล้วให้จื่อเอา.... ลูกอย่าได้เกียจคร้านตั้งต่อศีลธรรม.... ให้เจ้าบำเพ็ญจิตให้อ่อนโยนหายกระด้าง....
แม่ได้แปลงให้ไปนิพพานนั้นฮอดง่าย.... ครั้นเดินทางเส้นฮ้านแสนเมื่อยกะบ่อเห็น.... สายทองแม่ได้หย่อนให้เจ้าอย่าปะปล่อยวางไป.... ให้ลูกวางเอาไว้สังขารบ่อแน่วแน่ ....ทุกสิ่งในโลกนี้ล้วนแต่อนิจจัง.... บ่อมีแนวจีรังดั่งเมืองสวรรค์ฟ้า ....แม่สิครองคอยถ้าพุทธบุตรจะกลับต่าว สารแม่ส่งให้เจ้ายุคขาวนั้นให้ด่วนมา ....พากันเอาแก้วสามประการนำแม่ของวิเศษเลิศล้ำแสนล้านค่าแพง.... มอบให้ลูกแจ่มเจ้าผู้จมอยู่ทะเลทุกข์พากันมารับเอาตาวมาคืนเมือบ้าน.... อย่าได้เนิ่นนานช้าถึงเวลาแม่สิสั่ง ....หวังให้ลูกแจ่มเจ้าได้คืนบ้านเก่าหลัง....
ให้ลูกจำเอาไว้ญาณทวารอันประเสริฐ ....พระวิสุทธิอาจารย์เผินเปิดให้แล้วประตูแก้วให้จือเอา.... จังสิเห็นทางขึ้นแดนนิพพานบ้านเก่า.... ขอให้ลูกแจ่มเจ้ามาพร้อมพรำกันดวงวิญญาณ.... ที่เหลือค้างเก้าพันสองร้อยล้านให้ขึ้นสู่แดนนิพพานแม่เด้อ ....ไปเสวยความสุขอยู่เมืองสวรรค์ชั้นฟ้า.... มันก็หมดเวลาแล้วธรรมกาลสิมาใหม่ ....ขอให้ลูกอ่อนน้อยฟังแล้วให้ใส่ใจ.... แม่อาลัยนำเจ้าย่านใจเบาคิดบ่อแมน.... ย่านบ่อเห็นบอนบ้านนิพพานพู้นเก่าหลัง.... น้ำตาแม่หลั่งย้านลูกบอต่าวคืนมา....
ย้านลูกหลงโลกีย์บ่อห่วงเมืองสวรรค์ฟ้า.... ให้ลูกคืนมาถ่อนอย่าเนินนานกาลด่วน.... นาวาธรรมแม่ส่งให้เจ้าพากันขึ้นฝั่งนิพพาน.... อย่าได้มานอนค้างโลกาโลกต่ำ.... คำแม่บอกลูกแก้วอันจำแล้วให้ด่วนมา.... อนุตตรวิถีนี้เป็นทางดีแสนประเสริฐ.... ไผผู้ได้พบพ้อก็บุญเจ้าตั้งแต่หลัง.... แม่สิสั่งลูกไว้ยุคสุดท้ายปลายกัป.... พระศรีอาริย์ อาจารย์เพิ่นสิมารองรับเปลี่ยนโลกีย์ก้องให้เป็นวังบัวบานแท้.... บ่อมีแปลไปเป็นใหม่....
พวกมหันตภัยก็สิดับมอดสิ้นสูญเสียบ่อให้เหลือ.... มนุษย์เฮาสิได้สุขอยู่ล้วน.... เสมอดั่ง.... แดนนิพพานวังบัวบานสิใสขึ้นสู่สุขาวดีสิแจ้งส่อง แสงธรรมแสงทองสิส่องหล้าลุงป้าหากสิเห็น.... เหมือนกับจันทร์เพ็ญแจ้งวันเพ็ญสิบห้าค่ำ.... บ่อมีสูญเสื่อมเศร้าธรรมเจ้าส่องนภา.... มนุษย์ใต้ลุ่มฟ้าสิได้เพิ่งบารมีพร้อมทั้งเดียรฉานสัตว์.... สิอยู่เย็นหายฮ้อน.... กับทั้งฝูงมารฮ้ายสูรกายกรรมบาป.... จมอยู่พื้นในหม่องหมื่นปี....
บารมีเจ้าปกคลุมไปทั่ว.... แม้นสิกรรมมากล้นขอให้ได้เพิ่งบุญคุณของท่านพระศรีอาริย์ผู้ประเสริฐ.... สิมาเปิดโลกกว้างให้คนได้อยู่เย็น.... เหมือนดั่งฝนห่าพรมแผ่นธรณี.... บุญของพระพร่ำแพงเหลือล้น.... พาสัตว์ข้ามสงสารแสนย่าน.... มนุษย์เฮาสิได้สุขทั่วหน้าลุงป้าให้เบิ่งเอา.... คันบ่อแมนเพิ่นบ่อเว้าให้คนเชื่อหลงลม.... มันหากเป็นคำจริงจึงได้มาจาต้าน.... ขอให้โลกากว้างปวงชนพ้นจากบ่วง....
ขอให้สุขทั่วหน้าเมืองฟ้ากะบ่อปาน.... โลกสิสุขอยู่ถ้วนเสมอดั่งแดนนิพพาน.... พันปีทิพย์เที่ยงเสมอเลิศล้วนมวนประชาเชื้อเดียรฉานน้อยใหญ่พากันไหลหลั่งเข้ามาเต้าเพิ่งบุญ.... ชมพูพื้นเพียงงามคันคูฮาบ.... เหมือนเทิ้งฟ้ากองแก้วหาบงาม.... ในภาคพื้นเท้าหัวชมพูหญิงหญิงหญิง - ชาย จำศีลหมดสู่คนจนถ้วน.... ปรากฏท้าวยมบาลเทวโลก.... พระยาอินทร์อยู่ฟ้าเห็นแล้วก็ชื่นชม.... วาจามั่นสัจจะตั้งเที่ยง.... บ่อเหงี่ยงก้อยลางสิ้นเพียรได้ถ่ายฟาง.... พากันสร้างชมพูพื้นแผ่น.... แสนสนุกมากล้น.... คนสิได้อยู่สบาย.... เจ้าเอ๊ย.... ๆๆๆๆๆๆๆ ....(หมอลำ)....
กลอนลำ... พระอนุตตรธรรมมารดา
พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่....ทรงประทานเครื่องแต่งกาย.... สำหรับสวมใส่ให้แก่ทุกๆ วิญญาณ.... เพื่อที่ว่าหยดแห่งแสงหยดเล็กๆ แต่ละหยดเพื่อจะได้แต่งตัว....เพื่อแสดงบทบาทของเขาใน "ชีวิต"....
เครื่องแต่งกายของวิญญาณถูกเรียกว่า...."ร่างกาย" ....ทุกๆ วิญญาณบนโลกนี้.... มีร่างกายสำหรับสวมใส่.... ระยะเวลาที่วิญญาณหนึ่งสวมใส่ร่างกายหนึ่งๆ นั้นและเล่นละครในบทบาทนั้นใน "ชีวิต" ถูกเรียกว่า... "ชั่วชีวิต"....(เปลี่ยนไม่ได้จนกว่าวิญญาณจะออกจากกายนั้น)
วิญญาณบางวิญญาณ....ได้รับกายของพืชต่างๆ.... บางวิญญาณได้รับกายของแมลง....และสัตว์เลี้อยคลาน.... พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่....ทรงประทานกายของปลา....และนก....บางวิญญาณได้รับกายของสัตว์....
และมันก็เป็นไปตามนั้น !....
ตามความปารถนาของพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่...วิญญาณเล็กๆ ทั้งหมดจากบ้านที่แท้จริงของเขา... และลอยละล่องลงผ่านดินแดนอันสุกสว่าง....และงดงามอย่างน่าอัศจรรย์มากมาย....
จนกระทั่งในที่สุด.... พวกเขาก็มาอยู่ที่ตรงนี้.... มายืนอยู่บนเวทีของโลกนี้โลกที่เราอาศัยอยู่ในขณะนี้.... การแสดงพร้อมที่จะเริ่มแล้ว !....
และบางวิญญาณ....ได้รับกายที่สุดยอดแห่งกายทั้งหลาย....นั่นก็คือ....กายมนุษย์ ....
ด้วยการสวมใส่เครื่องแต่งกายของพวกเขา.... วิญญาณทั้งหมดจึงดูแตกต่างกันไป.... แต่ภายใต้ร่างกายต่างๆ ของพวกเขานั้น.... พวกเขายังคงเป็นหยดเล็กๆ ของแสง....และความรักเหมือนๆ กัน....
เราทั้งหลายต่างเป็นครอบครัวเดียวกัน.... เพราะเราทั้งหลาย ต่างมีพระองค์ธรรมหนึ่งเดียว.... พระเจ้า ....พระผู้เป็นเจ้า....ผู้ยิ่งใหญ่องค์เดียวกัน....
เราควรมีความกรุณา.... มีความอ่อนโยน....และมีความรักต่อสิ่งมีชีวิตทุกๆ ชีวิตอยู่เสมอ.... เพราะว่า....วิญญาณนั้นอาศัยอยู่ในชีวิตแต่ละชีวิต....
บรรดาสิ่งมีชีวิตทั้งหมดที่เราเห็นในโลกนี้.... สามารถแบ่งออกเป็นห้ากลุ่ม....
ถ้าเราสามารถมองเห็นพวกเขาตามลำดับขั้นบันได.... จะเห็นเป็นดังนี้....
มนุษย์....อยู่บนขั้นสูงสุด....เพราะเราสามารถเข้าใจว่าเราเป็นหยดของวิญญาณ.... ไม่ใช่เพียงแค่นักแสดง.... และเพราะความลับอันหน้าอัศจรรย์ ที่เธอจะค้นพบต่อไปในไม่ช้านี้....
สัตว์ต่างๆ.... อยู่ในลำดับขั้นที่สี่.... พวกเขาอยู่ในระดับต่ำกว่ามนุษย์....เพราะพวกเขาไม่สามารถตระหนักว่า....พวกเขาคือหยดของวิญญาณ....
นกต่างๆ.... อยู่บนขั้นที่สาม.... ถึงแม้ว่าเขาจะมีอิสระที่จะบิน.... พวกเขาฉลาดน้อยกว่าสัตว์....
ปลาต่างๆ สัตวเลื้อยคลานต่างๆ แมลงต่างๆ และ หนอนต่างๆ อยู่บนขั้นที่สอง.... พวกมันฉลาดน้อยกว่าพวกนก....
พืชต่างๆ.... อยู่ที่ขั้นต่ำ.... พวกเขาเป็นรูปแบบของชีวิตที่ต่ำสุด.... พวกเขาไม่สามารถคิดและถูกยึดกับที่ที่หนึ่ง....
วิญญาณ....คือ สิ่งที่ทำให้ร่างกายมีชีวิต.... และ สามารถที่จะกระโดด.... วิ่ง....ว่ายน้ำ....และบิน....ได้ !....
เมื่อบทบาทของวิญญาณในละครจบลง.... วิญญาณก็จะลาจากร่างซึ่งเป็นเครื่องแต่งกาย.... จากนั้น... ร่างก็ตาย....ไม่มีชีวิต....หมดลมหายใจ....ไม่เคลื่อนไหวอีกต่อไป....
แต่....วิญญาณไม่มีวันตาย !....วิญญาณของเธอเป็นหยดของพระเจ้าที่สุกสว่าง.... ดังนั้น ตัวตนที่แท้จริง ของเธอ มีชีวิตอยู่ตลอดกาล ! ....
เธอรู้หรือไม่ว่า....เกิดอะไรขึ้นกับวิญญาณ....หลังจากที่มันละจากร่าง....ซึ่งเป็นเครื่องแต่งกาย.... ???
มันเริ่มต้นชีวิตใหม่....ในร่างใหม่ !.... มันได้รับเครื่องแต่งกายใหม่....และบทบาทหนึ่งที่จะแสดงบนเวทีของจักรวาล !....
นี่คือ สิ่งที่เรียกว่า....การเกิด....วิญญาณดวงหนึ่งสามารถที่จะไปเกิดเป็นสิ่งมีชีวิตอะไรก็ได้....ในชั่วชีวิตหนึ่ง....เธออาจจะแสดงบทบาทของ"ต้นแอบเปิ้ล".... ในอีกชั่วชีวิตหนึ่ง....เธออาจจะสวมใส่เครื่องแต่งกายของ"เสือ"....หรือ"ปลาดาบ".... หรือเธออาจจะแสดงบทบาทของ"เด็กชายชาวอินเดีย"...หรือ"เด็กหญิงชาวอเมริกัน"....
การได้เห็นชีวิตที่ผาสุกเป็นสิ่งที่ทำให้พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ทรงพอพระทัย....และชีวิตนั้นๆ ยอมรับบทบาทที่พระองค์ได้ทรงประทานให้แสดงใน "ชีวิต" ด้วยความยินดี....
ละครแห่ง "ชีวิต" เป็นเหมือนวงกลมวงใหญ่ ....บรรดาวิญญาณซึ่งเป็นนักแสดงเดินทางไปรอบๆ.... จากร่างหนึ่งไปสู่อีกร่างหนึ่ง.... จากเครื่องต่งกายชุดหนึ่ง....ไปยังอีกชุดหนึ่ง.... แสดงบทบาทต่างๆ กันไป.... เป็นเวลานับ ล้านๆ ชาติ....
พระเจ้า....ทำให้ละครของพระองค์ดูเหมือนจริงมาก.... ดังนั้น บรรดาจิตวิญญาณของพระองค์....จึงลืมไปอย่างสิ้นเชิงว่า....พวกเขาเป็นเพียงนักแสดง ซึ่งเล่นละครในบทบาทต่างๆ อยู่เท่านั้น....บางครั้งพวกเขาก็เป็นกังวลว่า....จะเกิดอะไรขึ้น....และจะเกิดอะไรขึ้นในชีวิต....???
แต่พระเจ้าไม่เคยกังวลว่า....เกิดอะไรขึ้น....เพราะว่าพระองค์ คือผู้กำกับการแสดง....และพระองค์ทรงรู้ว่า ...."ชีวิตเป็นเพียงแค่ละครเท่านั้น...."
พระเจ้าทรงมีความสุขที่ได้เห็นละครของพระองค์ได้รับการแสดงอย่างสวยงาม....โดยเหล่าวิญญาณของพระองค์.... ดังนั้น จงสนุกไปกับละครของพระองค์ !.... จงมีความสุขและรู้สึกขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเธอ ในละครของพระองค์....
และ....เมื่อใดก็ตามที่เหตุการณ์นั้น...เศร้าหรือยากลำบาก....จงจำไว้ว่า....เธอเพียงแค่กำลังแสดงบทบาทหนึ่งในละครเท่านั้น(ตัวปลอม)....ตัวตนของเธอจริงๆ คือ...จิตวิญญาณของเธอ....คือ หยดๆ หนึ่งที่สุกสว่างสมบูรณ์พร้อมของพระเจ้า นั่นเอง....
ดังนั้น ความรัก....พลังอำนาจ....และ ความยิ่งใหญ่ของพระองค์ทั้งหมดนี้ ล้วนอยู่ภายในเธอ !....
จงคุยกับพระเจ้า....(จิตสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่ในตัวเรา) จงรู้สึกว่าพระองค์เปล่งประกายอยู่ในตัวเธอ....มีความรักให้เธอ....และ ประทานพละกำลังทุกอย่างที่เธอต้องการ....ในการแสดงบทบาทที่พระองค์ได้ทรงมอบให้เธอ....ด้วยความกล้าหาญ....และเป็นอย่างดี....
นี่คือ สิ่งที่เรียกว่า....ศรัทธา....ถ้าเธอระลึกถึงพระองค์อยู่เสมอ....และ มีความศรัทธาในพระองค์....เธอจะมีความสุขในตัวของเธอเองไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น....ในละคร "ชีวิต" ของพระองค์...
เมื่อพระองค์...ต้องการให้จิตวิญญาณของพระองค์วิญญาณหนึ่งกลับสู่บ้านที่แท้จริง....พระองค์ทรงทำให้บุคคลเหล่านั้น....รู้สึกอ้างว้าง หว้าเหว่ลึกๆ ภายใน....เหมือนมีบางสิ่งบางอย่างขาดหายไป....
นี่คือ.... วิธีพิเศษของพระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่....ในการเตือนวิญญาณให้จำได้ว่า....บ้านที่แท้จริงของเจ้า้ไม่ได้อยู่ในโลกนี้....แต่อยู่ในมหาสมุทรแห่งแสงสว่างอันไกลโพ้น....ซึ่งวิญญาณได้จากมา....
เหตุผลที่ "กายมนุษย์" นั้นพิเศษสุด....ก็คือ มันป็นร่างซึ่งเป็นเครื่องแต่งกายเพียงหนึ่งเดียว....ที่จิตวิญญาณสามารถละจากละครของพระเจ้าได้ตลอดกาล....และ กลับคืนสู่บ้านที่แท้จริง อีกครั้งหนึ่งได้....
พระเจ้า....ได้ทรงวาง "ประตูลับ" ไว้ประตูหนึ่ง....ซึ่งไม่สามารถมองเห็นได้ไว้ในมนุษย์ทุกคน !... ประตูลับนี้....เปิดไปสู่หนทางเร้นลับ....ดินแดนอันมหัศจรรย์มากมาย....สู่มหาสมุทรของพระเจ้าอันสุกสกาว....
และดังที่....พระองค์ได้ทรงสัญญาไว้ตั้งแตเริ่มแรกว่า....พระองค์จะทำ....พระเจ้าจงส่งพลังอันยิ่งใหญ่.... ความเมตตา และความรักของพระองค์เองลงมายังโลกนี้....เพื่อที่จะ ค้นหาหยดวิญญาณที่ถูกทำเครื่องหมายไว้....และพาพวกเขาเหล่านั้น กลับสู่บ้านที่แท้จริง....
พลังอำนาจอันยิ่งใหญ่นี้เรียกว่า....ท่านผู้ศักดิ์สิทธิ์ (The Living Master)...(บรรพจารย์, วิสุทธิอาจารย์) และพลังอำนาจอันยิ่งใหญ่นี้มาในร่างของมนุษย์....ซึ่งดูลักษณะเหมือนเธอและฉัน....(ใช้กายมนุษย์โปรด)
แต่ที่จริงแล้ว ท่านผู้ศักดิ์สิทธิ์ เป็นตัวแทนขององค์พระเจ้า.... ผู้ซึ่งมายังโลกนี้....เพียงเพื่อจะ ฉุดช่วยจิตวิญญาณทั้งหลาย....จากละครของ "ชีวิต".... และนำพวกเขากลับบ้านที่แท้จริง เท่านั้น....
วิญญาณเหล่านั้น....ถูกดึงดูดเข้าหาท่านดังเช่นผึ้ง....ถูกดึงดูดโดยน้ำหวาน.... ท่านผู้ศักดิ์สิทธิ์ จะบอกเราถึงทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับบ้านที่แท้จริง....และเติมความรักที่มีต่อพระเจ้าให้กับเรา....
เมื่อบุคคลหนึ่ง....มีความต้องการอย่างแท้จริง....ที่จะกลับไปยังมหาสมุทรแห่งแสงอันยิ่งใหญ่.... จะทำเช่นนั้นได้อย่างไร ....?
1. รับธรรม ( รับรู้ตัวตนที่แท้จริง คือ จิตเดิมแท้ )
2. บำเพ็ญธรรม ( แก้ไขนิสัย ขัดเกลาตน )
3. เร่งสร้างบุญ ( ชีวิตจะราบรื่น สำเร็จในปณิธาน)
เมื่อเธอหลับตาและนั่งนิ่งๆ....ตั้งจิตระลึกถึงมาตุภูมิบ้านเกิดแห่งจิตวิญญาณ และพระองค์ธรรมผู้ยิ่งใหญ่....
ด้วยความรักนี้....สิ่งนี้ทำให้เขาผู้นั้นลืมเรื่องเกี่ยวกับบทบาทการแสดงของเขาไปชั่วขณะหนึ่ง....
ใจของเขาเริ่มสงบ....และนิ่งเสียจนเขาสามารถได้ยินคลื่นของเสียงอันน่าอัศจรรย์....และ เห็นแสงอันสุกสว่าง....ของกระแสธารที่ไหลไปตลอดทางกลับสู่มาตุภูมิแห่งพระองค์ธรรม....
แล้ววันหนึ่ง....ประตูลับก็เปิดออก.... เปิดเผยให้เห็นถึงหนทางที่เร้นลับภายใน !....
ด้วยความตื่นเต้น.... วิญญาณก้าวข้ามผ่านเขตประตูนั้นเข้าไปที่ท้องฟ้า....เต็มไปด้วยดวงดาวของโลกใหม่อันแสนอัศจรรย์....
ในแต่ละวัน.... วิญญาณติดตามกระแสเสียง....และ แสงที่สุกสว่าง....และดังกังวาลอยู่ไกลออกไป....และไกลออกไปเรื่อยๆ.... ขึ้นไปตามหนทางที่เร้นลับนั้น....
และแล้ว.... ในอาณาจักรที่เปล่งประกายสุกสว่างนี้.... บางสิ่งบางอย่างที่น่าอัศจรรย์ก็เกิดขึ้น !.... วิญญาณเห็นภาพที่น่าตื่นตะลึงและงดงามมาก !....
ดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้....ประกอบด้วยประกายรัศมีอันเจิดจ้า....กระแสของเสียง....และแสงเท่านั้น !....
วิญญาณเต้นรำด้วยความปิติยินดี.... ถลาเข้าไป....และ ได้รับการพาไปยังบ้านของเขา....ในเวลาชั่วพริบตา....
ไกลออกไป....แสงสว่างมากมายมหาศาล....ที่รอต้อนรับกลับสู่บ้าน !....ท่วมท้นไปด้วยความรักและความปารถนาในพระเจ้า.... วิญญาณรีบตรงเข้าไป.... จนกระทั่งถึงยังธรณีประตูวังแห่งพระองค์เลยทีเดียว....และแล้ว...
ในชั่วแวบหนึ่ง...ประตูได้เปิดออก !....และหยดวิญญาณได้กลับคืนสู่มหาสมุทรแห่งแสง อันเป็นต้นธาตุต้นธรรม.... ณ ที่ซึ่งเคยอาศัยอยู๋อย่างมีความสุข.... ความสงบ....กับพระเจ้า.... พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ตลอดกาล....และชั่วนิรันดร ....
หนทางอันเร้นลับ....นำจิตวิญญาณผ่านดินแดนอันน่ามหัศจรรย์....และน่าพิศวงมากมาย....
จนกระทั่งในที่สุด....พวกเขามาถึงโค้งสุดท้าย....และมองดู...
สำนักพิมพ์เอกอนันต์บุ๊ค
Tel : 034-246644
Mobile : 085-0658236, 089-6726781
Fax : 034-246644
email : 96rangjai@gmail.com
บุคคลหรือหน่วยงานใดสนใจจัดพิมพ์หนังสือธรรมะเผยแพร่เพื่อแจกจ่ายเป็นธรรมทานแก่วัด ห้องสมุด โรงเรียน โรงพยาบาล สถานสงเคราะห์ ทัณฑสถาน ฯ หรือใช้ในโอกาสอันเป็นมงคลในชีวิตท่าน เช่น วันเกิด ทำบุญบ้าน กฐิน ผ้าป่า วันขึ้นปีใหม่ งานเกษียณอายุราชการ งานศพ สร้างอุทิศส่วนกุศล สะเดาะเคราะห์ หรือแจกจ่ายในงาน มงคล-อวมงคลต่างๆ
อนึ่ง ทางรสำนักพิมพ์มีความยินดีในกุศลเจตนาของท่านผู้มีใจอนุเคราะห์ช่วยเหลือกล่อมเกลาจิตใจของชาวโลกด้วยกุศโลบายอันพระพุทธองค์ได้ทรงสรรเสริญแล้ว ทั้งนี้ ทางสำนักพิมพ์ขอร่วมอนุโมทนาบุญ โดยให้ความสะดวกในด้านบริการในราคาพิเศษและจัดส่งตามรายการสั่ง ไม่ว่าซื้อน้อย-ซื้อมาก ในกรุงเทพฯ หรือต่างจังหวัด ทางสำนักพิมพ์ยินดีให้บริการแก่ทุกท่าน
Copyright (c) 2010 All Rights Reserved.
แก้ววิเศษ 3 เคียงคู่กายเรา....
เข้าวิมานด่าน....สามตราต้องแสดง....
นัยตาศูนย์รวมจุด....ท่องสัจจะคาถา....
มืออุ้มเด็กน้อยพา....ก้าวคืนสู่แดน....