ธรรมะกับภัยพิบัติ
กวนอู
ธรรมคือแรงใจ
สำนักพิมพ์เอกอนันต์บุ๊ค
Tel : 034-246644
Mobile : 085-0658236, 089-6726781
Fax : 034-246644
email : 96rangjai@gmail.com
โลโก้เอกอนันต์
    บุคคลหรือหน่วยงานใดสนใจจัดพิมพ์หนังสือธรรมะเผยแพร่เพื่อแจกจ่ายเป็นธรรมทานแก่วัด  ห้องสมุด  โรงเรียน  โรงพยาบาล สถานสงเคราะห์  ทัณฑสถาน ฯ หรือใช้ในโอกาสอันเป็นมงคลในชีวิตท่าน  เช่น วันเกิด   ทำบุญบ้าน  กฐิน  ผ้าป่า  วันขึ้นปีใหม่  งานเกษียณอายุราชการ  งานศพ  สร้างอุทิศส่วนกุศล  สะเดาะเคราะห์  หรือแจกจ่ายในงาน มงคล-อวมงคลต่างๆ
    อนึ่ง  ทางรสำนักพิมพ์มีความยินดีในกุศลเจตนาของท่านผู้มีใจอนุเคราะห์ช่วยเหลือกล่อมเกลาจิตใจของชาวโลกด้วยกุศโลบายอันพระพุทธองค์ได้ทรงสรรเสริญแล้ว ทั้งนี้ ทางสำนักพิมพ์ขอร่วมอนุโมทนาบุญ โดยให้ความสะดวกในด้านบริการในราคาพิเศษและจัดส่งตามรายการสั่ง  ไม่ว่าซื้อน้อย-ซื้อมาก  ในกรุงเทพฯ หรือต่างจังหวัด  ทางสำนักพิมพ์ยินดีให้บริการแก่ทุกท่าน
96 ธรรมคือแรงใจ
จิตเดิมแท้ของเรานั้นทุกคนนั้นมาจากธรรมชาติอันบริสุทธิ์
  ธรรมะกับพิบัติ  
ธรรมะกับภัยพิบัติ
             องค์พระศรีอาริยเมตไตรย และพระมหาโพธิสัตว์กวนอิม ทรงน้อมสดับฟังพระวจนะแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ถึงเรื่องการประคับประคองช่วยเหลือเหล่าเวไนยสัตว์ที่ต้องผจญกับสิ่งชั่ว ร้าย ในช่วงวาระกัปสุดท้ายว่า...
โอวาทธรรม ''คัมภีร์กัปป์สุดท้าย"

" ฟ้าเบื้องบน...จะทรงบัญชาให้เทพยดาผู้คุมเกณฑ์กำหนด... ตารางสวรรค์ลงมายังโลกมนุษย์... เพื่อสำรวจดูคัมภีร์กัปป์สุดท้ายนี้... หากพบว่า...มีเหล่าสาธุชนเผยแพร่ออกไป... ด้วยความเคารพศรัทธา... พวกเขาทั้งหลายย่อมสามารถรอดพ้นจากเกณฑ์วาระแห่งมหันตภัยได้... และทุกชีวิตในครอบครัวจะไร้ทุกข์โศก..."
ผู้ที่ละเว้นกรรมชั่ว... ถือศีลกินเจ... ประกอบแต่คุณงามความดี... จะไม่ต้องเศร้าสลดวิตกกังวลประสบพบเจอภัยพิบัติทั้ง ๑๐ ประการ อันได้แก่...
๑. ถูกเพลิงไหม้เผาผลาญ ถูกน้ำไหลบ่าท่วมท้น

๒. ถูกเมฆหมอก ควันพิษ ทำลายล้าง

๓. มึนซึม หลับใหลหมดสติตาย

๔. ถูกสัตว์ร้าย งูพิษ ขบกัด

๕. ถูกประหัดประหารเข่นฆ่า ตายด้วยภัยสงคราม

๖. สามีภรรยา ต้องพลัดพรากหย่าร้าง

๗. ต้องเร่ร่อน อพยพหลบหนี ไม่มีที่อยู่อาศัย

๘. ต้องเผชิญกับอากาศที่ผันแปร ทั้งหนาวเหน็บ ทั้งร้อนและแห้งแล้ง

๙. ต้องเศร้าโศก ต่อภาพของซากศพที่กองเกลื่อนกลาดทั่วแผ่นดิน

๑๐.ไม่ได้พบเห็นความสงบสุขและสันติ
          หากมนุษย์ในโลก จิตใจชั่วร้ายต่ำทรามลบหลู่หลักธรรมคัมภีร์สิ้นศรัทธาในคุณความดี ถึงเกณฑ์ ปีวอก ปีระกา ปีจอ และปีกุน เมื่อใด... เมื่อนั้น มีข้าวก็ไร้คนกิน... มีเสื้อก็ไร้คนใส่... มีถนนก็ไร้คนเดิน... มีบ้านก็ไร้คนอยู่... มีที่นาก็ไร้คนทำ จวบจนถึงวาระเดือนห้า... เดือนหก สัตว์ร้ายงูพิษจะออกเพ่นพ่านไปทั่ว เข้าเดือนแปดเดือนเก้า เหล่าคนชั่วร้ายจะตายสิ้น จนซากศพเกลื่อนกลาดเต็มพื้น!...

          บนท้องถนนคน ล้มตายนับไม่ถ้วน... มหันตภัยมาถึง หนึ่งหมื่นคนตายเก้าพัน! พืชพันธุ์ธัญญาหารเก็บเกี่ยวได้ผลน้อย เกิดลมพายุฝนฟ้าคะนองเหล่าพญานาคดุร้ายเกะกะระรานไปทั่ว

          ถึงกาล เวไนย์สัตว์มีภัย องค์เง็กเซียนฮ่องเต้(พระอินทร์)ผู้เป็นใหญ่ จึงมีพระบัญชาส่งสองขุนพลจอมเทพผู้พิทักษ์ด่านประตูสวรรค์ลงสู่แดนมนุษย์ เหนือบรรยากาศโลก เทพยดาที่สัญจรอยู่เหนือโลกมนุษย์จะบัญชาการส่งหมู่ดาว "อ่านชิง" ลงเก็บกวาดคนชั่วร้ายทั้งหมด จะเกิดทุพภิกขภัยข้าวยากหมากแพง...

           องค์พระศรีอาริยเมตไตรยจะปรากฏ...

           สองขุนพลจอมทัพผู้พิทักษ์ด่านประตูสวรรค์ลงสู่แดนมนุษย์นับจากปีจอ...เริ่มต้นด้วยโรคระบาด...จนถึงปีกุนประชาราษฎร์... ในเก้าคนรอดตายเพียงหนึ่ง!...

จะเกิดมหันตภัยใหญ่ ครอบคลุมไปทั่ว อันได้แก่


๑.  ภัยจากแรงลมมหาศาล

๒.  ภัยจากไฟโหมลุกไหม้

๓.  ภัยจากน้ำท่วมใหญ่

๔.  ภัยจากการทำศึกสงคราม

๕.  ภัยจากโรคร้ายที่ไม่เคยมีมาก่อน

๖.  ภัยจากสัตว์ร้ายมีพิษขบกัด

๗.  ภัยจากกระแสไฟฟ้า ฟ้าผ่า

๘.  ภัยจากอาหารขาดแคลน อดอยาก

๙.  ภัยจากการคลอดบุตร ทารกร่างกายผิดปกติ

๑๐. ภัยจากการสูญสิ้นของมวลมนุษยชาติ
องค์สมเด็จพระศากยมุนีพระพุทธเจ้าทรงครองธรรมกาล ๓,๐๐๐ ปี...ลุถึงปัจจุบันครบบริบูรณ์พระศรีอาริยเมตไตรยทรงสืบทอดครองธรรมกาลต่อ...

เริ่มเข้าเกณฑ์ ปีวอก... จนถึงปีชวด พืชพันธุ์ธัญญาหารจะไม่สมบูรณ์ ผู้คนจะอดอยากตาย มีภัยสงครามยากจะหลีกหนี!...

หากมีคนนำคัมภีร์นี้เผยแพร่ไปถึงพัน...ถึงหมื่น... จะรอดพ้นจากภัยพิบัติ...เข้าถึงยุคบรรพกษัตริย์ เหยาและซุ่น(กษัตริย์จีนยุคโบราณ) อันเป็นยุคที่บ้านเมืองเจริญรุ่งโรจน์สังคมมีความยุติธรรม ผู้คนได้ประสบสุขเกษมสันต์อยู่ร่วมกันในโลกดอกบัวแห่งมหาสันติเบ่งบาน...

คนพาลสันดาลหยาบ... แม้ล่วงรู้คัมภีร์กลับลบหลู่ปกปิดทำลายย่อมประสบกับเภทภัยทั้งสิบประการตายแล้วก็ยาก... จะได้กลับมาเกิดอีก...

สาธุชน คนดี... ประกอบด้วยเมตตาจิต...ตั้งใจเผยแพร่คัมภีร์ออกไป... เขาเหล่านั้นย่อมประสบแต่ความเป็นสิริมงคล ทุกคนในครอบครัวจะร่มเย็นเป็นสุข สามารถรอดพ้นจากมหันตภัยทั้งหลายได้...
พระพุทธองค์
            พระโพธิสัตว์กวนอิมอวโลกิเตศวร...ได้เข้าเฝ้าพระองค์ธรรมมผู้เป็นเจ้าเบื้องบนสูงสุด...เพื่อกราบบังคมทูลรายงานถึงความดี ความชั่ว ที่มนุษย์ได้กระทำ... ครั้งนั้นองค์เง็กเซียนฮ่องเต้ทรงทราบข่าวสภาพความเลวร้ายบนโลกมนุษย์... ก็ทรงพิโรธยิ่งนักและตรัสบริภาษต่อว่าเหล่าเทพยดาทั้งหลายว่า...
" เสียแรงเปล่าที่ชาวโลกพากันจุดธูปเทียนบูชากราบไหว้ แต่กลับไม่ยอมอบรมสั่งสอนเวไนยสัตว์ทั้งหลายเหล่านั้น มาจนบัดนี้... ในโลกมนุษย์จึงเนืองแน่นไปด้วยคนใจบาปหยาบช้า ผู้คนไม่มีมโนธรรมสำนึกหลงเหลืออยู่เลย ดังนั้นจึงต้องมีราชโองการลงโทษทัณฑ์ ให้เกิดภัยพิบัติต่อเนื่องกันหลายปี เพื่อกำหราบคนชั่วช้าสามานย์และเปลี่ยนแปลงจิตใจชาวโลกเสียใหม่!"
ในเวลานั้น...บรรดาเหล่าทวยเทพทั้งหลายได้กราบทูลวิงวอน...แม้องค์พระโพธิสัตว์กวนอิมแห่งทะเลทักษิณถึงกับพระ วรกายทรุดหมอบลงกับพื้นพระบรมวิมาน... ทรงพร่ำทูลขอให้โปรดกรุณาแก่ชาวโลกซ้ำเป็นหลายครั้งว่า...

" ผู้ชั่วร้ายสมควรดับ... ผู้ดีงามควรคัดออก ๆๆ "...

องค์เง็กเซียนฮ่องเต้จึงทรงมีพระบัญชาชี้ขาดว่า...

" ดีชั่ว สองฝ่ายแยกกัน !...
ให้สงครามเจาะจงเลือกที่เกิด !...
ให้โรคระบาดเจาะจงเลือกคนเป็น !...

และให้จอมเทพพิทักษ์ธรรมจงรับราชโองการกวาดล้างมนุษย์ที่กระทำความชั่วร้าย ดังต่อไปนี้...
๑. พวกที่กล่าวโทษ ด่าว่าฟ้าดิน
๒. พวกที่ดำเนินชีวิตปฏิบัติตนผิดหลักฟ้า ฝืนหลักธรรม
๓. พวกที่ไม่กตัญญูต่อพ่อแม่
๔. พวกที่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ฆ่าเป็นอาชีพ ฆ่าเป็นกีฬา
๕. พวกที่ลักขโมย ปล้นชิง หยิบฉวยทรัพย์สมบัติ สิ่งของของผู้อื่น

๖. พวกที่โกหกมดเท็จ พูดจาหลอกลวงให้คนหลงเชื่อ
๗. พวกที่ประพฤติผิดในกาม มักมากในตัณหาราคะ
๘. พวกที่ชอบดื่มสุรา ยาเมา สูบบุหรี่ หลงใหลสิ่งเสพติดของมอมเมาสติ
๙. พวกที่ไม่ยึดถือศีลธรรม จิตใจขาดหิริโอตตัปปะ ไม่สำนึกละอายใจในการทำชั่ว ไม่เกรงกลัวบาปกรรม
๑๐. พวกที่ทำลายพระศาสนา บิดเบือนหลักธรรม หลอกลวงเทพยดาสิ่งศักดิ์สิทธิ์




๑๑. พวกที่เหยียบย่ำทำลายคัมภีร์หลักธรรม อักษรหนังสือ
๑๒. พวกที่ใจเหี้ยมโหด เข่นฆ่าเบียดเบียนชีวิตผู้อื่น เพื่อผลประโยชน์ของตน
๑๓. พวกที่ทำลายผู้อื่น เพื่อมุ่งผลกำไรและความสุขส่วนตน
๑๔. พวกที่ค้าขายใช้เล่ห์เหลี่ยม ขูดรีด คดโกงตาชั่ง
๑๕. พวกที่ค้าขายสินค้าปลอม ยาปลอม หลอกลวงชาวบ้าน

๑๖. พวกที่ใช้เล่ห์เหลี่ยมกลอุบายค้าขายเอาเปรียบคนอื่น
๑๗. พวกที่หาประโยชน์จากผู้อื่นด้วยการหลอกลวง ต้มตุ๋น
๑๘. พวกที่พูดจาหยาบคาย ชอบทุบตี ด่าว่าบุพพการี ปู่ย่า ตายาย
๑๙. พวกที่ชอบพูดจาให้ร้ายป้ายสีผู้อื่น
๒๐. พวกที่อารมณ์ร้าย โมโหโกรธา ด่าว่าคนอื่นไปทั่ว




๒๑. พวกที่ชอบว่ากล่าว ตำหนิโทษผู้อื่น ด้วยใจอคติไม่เที่ยงธรรม
๒๒. พวกผู้ชายที่ไม่จริงใจต่อภรรยา พวกผู้หญิงที่ไม่เคารพซื่อสัตย์ต่อสามี
๒๓. พวกที่ชอบยุแหย่ทำลายชีวิตครอบครัวผู้อื่นให้แตกแยกล่มสลาย
๒๔. พวกพี่น้องที่ไม่รักใคร่ปรองดองกัน คอยแต่แย่งชิงดี ชิงเด่นฟ้องร้องแย่งชิงทรัพย์มรดก
๒๕. พวกวงศ์ตระกูลเดียวกัน แต่กลับทะเลาะเบาะแว้งไม่สามัคคีกลมเกลียว

๒๖. พวกที่ชอบยุยงส่งเสริมให้ผู้อื่น ฟ้องร้องคดีความ
๒๗. พวกที่ไม่มีความจริงใจ เป็นคนลวงโลก สวมหน้ากากเข้าหากัน
๒๘. พวกหน้าเนื้อใจเสือ ภายนอกแต่งกายให้ดูดี แต่ภายในสกปรกโสมม
๒๙. พวกที่อาศัยอำนาจหน้าที่ ใช้อิทธิพลในทางที่ผิด
๓๐. พวกที่กดขี่ราษฏร ฉ้อราษฎร์บังหลวง โกงกินบ้านเมือง




๓๑. พวกที่ชักศึกเข้าบ้าน ล้างผลาญประเทศชาติ เพื่อประโยชน์ของตน
๓๒. พวกผู้ปกครองที่ไม่ปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ดี กลับใช้อุบายวางแผนแก่งแย่งชิงกันเป็นใหญ่
๓๓. พวกที่ชอบประจบสอพลอ พะเน้าพะนอยกย่องเชิดชูรับใช้คนเลว
๓๔. พวกที่คอยมุ่งร้าย รังแกคนทำงานที่ซื่อสัตว์สุจริต
๓๕. พวกคนพาลสันดานหยาบ ที่คอยก่อกวนให้ผู้คนเดือนร้อน อยู่ไม่เป็นสุข

๓๖. พวกคนร่ำรวย แต่ใจร้ายข่มเหงคนยากไร้
๓๗. พวกที่ชอบยกย่องคนรวย เหยียบย่ำคนจน
๓๘. พวกที่เห็นคนตกทุกข์ได้ยาก ไม่อยากช่วยเหลือ
๓๙. พวกที่พบเห็นคนอยู่ในฐานะลำบาก กลับเมินเฉยแล้งน้ำใจ
๔๐. พวกที่เห็นผู้อื่นร่ำรวย ก็เกิดความอิจฉาริษยา




๔๑. พวกที่เห็นผู้อื่นฐานะสูงส่งด้วยชื่อเสียงเกียรติยศ ก็เกิดความโกรธแค้นชิงชัง
๔๒. พวกที่มีจิตใจอาฆาตมาดร้าย ใช้ไสยศาสตร์มนต์ดำสาปแช่งผู้อื่น
๔๓. พวกที่ร่ำเรียนคาถาอาคมทำร้ายผู้อื่น ทำเสน่ห์ยาแฝดฝังรูป ฝังรอย
๔๔. พวกที่ชอบฝึกวิชามาร ทำพิธีใช้ภูตผีกลั่นแกล้งทำลายล้างผู้อื่น
๔๕. พวกที่ชอบเผาป่า ทำลายสุสาน บุกรุกสถานที่ศักดิ์สิทธิ์

๔๖. พวกที่กินทั้งกินขว้าง ไม่รู้จักพระคุณข้าว น้ำ อาหาร
๔๗. พวกที่ทุบตีเด็กเล็กไร้เดียงสาด้วยโทสะข่มเหง รังแกเด็กๆ ผู้ที่ไม่สามารถจะช่วยเหลือตนเองได้
๔๘. พวกที่อกตัญญู ไม่รู้คุณคน
๔๙. พวกที่ประพฤติตน คิดแบบอย่างชี้นำ สอนให้เด็กอนุชนรุ่นหลังกระทำตามจนต้องกลายเป็นคนเลว ชีวิตไร้แก่นสาร
๕๐. พวกที่ถือตัวว่าอาวุโส สูงอายุ ใครว่ากล่าวไม่ได้ ทำผิดไม่ยอมรับ ตักเตือนไม่ยอมแก้ไข



๕๑. พวกอนุชนรุ่นหลัง ไม่รู้จักเด็กไม่รู้จักผู้ใหญ่ ไม่ยึดหลักคุณสัมพันธ์
๕๒. พวกที่ไม่พิจารณาสำรวจดูกรรมดี กรรมชั่วของตนเอง
๕๓. พวกที่เคยตักเตือนให้ทำความดี กลับทุ่มเถียงดื้อด้านไม่ยอมฟัง
๕๔. พวกที่คอยเสาะแสวงหาแต่ช่องทางกระทำชั่วอยู่ไม่ว่างเว้น
ค้าขายใช้เล่ห์เหลี่ยม ขูดรีด คดโกงตาชั่ง
ละเมิดศีล ชีวิตพบความวิบัติ
ผู้ชายที่ไม่จริงใจต่อภรรยา พวกผู้หญิงที่ไม่เคารพซื่อสัตย์ต่อสามี
ล้างผลาญประเทศชาติ เพื่อประโยชน์ของตน
ประพฤติตนเลวทรามต่ำช้า ผิดคุณธรรม
ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต
" นี่คือ ๕๔ ข้อ กรรมชั่ว...ที่ผู้ใดประพฤติ ผู้นั้นจะต้องถูกตรวจตราควบคุมเก็บกวาดให้เรียบ... ไม่ให้เหลือไว้ในโลก !...
เมื่อตายไปก็ต้องถูกเหวี่ยงเข้าสู่หนทางเปรต... สัตว์นรก... อสุรกาย... ยามยังมีชีวิตอยู่ให้พวกเขาเหล่านั้นมีอันเป็นไป... พินาศทั้งตระกูล... ให้บ้านแตกสาแหรกขาด... ให้นองเลือดท่วมแผ่นดิน... ให้กระดูกทับถมในพงพี... บ้านเรือนของพวกเขาให้ถูกผู้อื่นอยู่อาศัย ที่นาของพวกเขาให้ไร้คนจะเพาะปลูกทำกินได้ !...
หากมนุษย์จะเปลี่ยนแปลงแก้ไขตน... ให้ละเว้นความชั่ว สร้างสมคุณความดี... ผู้ที่เจ็บไข้ได้ป่วยก็จะหาย อายุจะยั่งยืน "

ครั้นครบกำหนดเวลา ๓ ปี...ที่ให้มนุษย์รีบเร่งปฏิบัติแต่ความดีงาม... เมื่อกระแสความคิดจิตใจและการกระทำของเหล่าเวไนยสัตว์ ถูกนำขึ้นกราบทูลรายงานเบื้องบน... ทันทีที่องค์เง็กเซียนฮ่องเต้ทรงทราบ... พระองค์ทรงมีพระราชโองการดังนี้...

"ข้าฯ... จะลงมาตระเวนตรวจตราดูทุกแห่งอย่างละเอียดถี่ถ้วน ข้าฯ จะดำเนินการพิพากษาตัดสิน ให้เกิดภัยสงครามอีกระลอกหนึ่ง ภายในเวลาไม่กี่เดือนให้เกิดโรคระบาดขึ้นอีกบางส่วน ทุกหน ทุกแห่งจะถูกกวาดให้หมดสิ้น! ต่อให้วิงวอนถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์... สิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็มิตอบสนอง ต่อให้กินยารักษาโรค ยาก็ไม่ได้ผล ถึงแม้ตำราเสินหนงยังอยู่ยาวิเศษแค่ไหนดีชั่วมีผลต่างกัน... คนดีมีคุณธรรมกินยารักษาโรค ก็จะสัมฤทธิ์ผล คนชั่วช้าสามานย์ กินยาแล้วก็ไม่อาจรอด

บัดนี้... ข้าฯ เห็นสภาพการณ์ว่า น่าเวทนา... ไม่มีวิธีการใดสามารถช่วยเวไนยสัตว์ได้ทัน ต่อให้จุดธูปบูชาข้าฯ ก็เสียแรงเปล่า ที่เห็นข้าฯ เป็นเทพยดาน่ากราบไหว้สักการะแต่ปัจจุบันมีทุกข์ไม่ยอมช่วย ใช่ว่าข้าฯ จะบิดเบือนต่อเบื้องบน ต่อเบื้องบนข้าฯ ก็ได้กราบบังคมทูลวิงวอนด้วยความรีบเร่งร้อนรนยิ่ง และต่อชาวโลกเบื้องล่าง... ข้าฯ ก็ให้ป่าวประกาศเผยแพร่สัจธรรม ชี้นำย้ำเตือนให้ผู้คนได้รับรู้

บัดนี้ . . . ถึงวาระเข้าสุ่ปลายกัปป์. . . เกณฑ์มหันตภัยยุคสุดท้าย ปุถุชนธรรมดาให้เก้าคนตายเหลือไว้เพียงหนึ่ง ให้เกิดสงครามอาวุธ หอก ดาบ มีขึ้นรอบด้าน โรคระบาดจู่โจมบุกรุกทุกแห่งหน อสุนีบาต สายฟ้าฟาดผ่าดังสนั่นสะเทือนเลื่อนลั่น อุทกภัยใหญ่ น้ำไหลหลากท่วมท้นบ้านเรือน วาตภัยลมพายุผกผัน กวาดไปทุกหนแห่ง ธรรมชาติแห้งแล้ง ชีวิตทั้งหลายยากจะอยู่รอด พญามารมาเคาะประตูบ้านในยามค่ำคืน โรคระบาดเข้าประชิดตัวในเวลากลางวัน เสือร้ายจากป่าเขาออกอาละวาด จะหลบหนีกันอย่างไร อสรพิษเลื้อยเต็มถนนหนทางจนยากจะเดิน!

เทพเจ้ากวนอู
" หากคราวนี้ไม่มีภัยพิบัติลงมากวาดล้างโลกนี้แล้ว โลกนี้จะหมดสิ้นคนดี หาคนเป็นปราชญ์เป็นอริยะเป็นหลักนำไม่ได้เลย "
" เมื่อใดที่ใจคนไม่ซื่อ... มีเล่ห์เหลี่ยมกลโกง เมื่อนั้นจึงมีภัยพิบัติ "
พระโอวาทพระองค์ธรรมมารดา...
" บัดนี้!...ถึงกาลเวลาสิ้นชะตาฟ้าดินแล้ว... คนชั่วที่สั่งสมกรรมเวรมาในรอบหกหมื่นปีมานี้ จะถูกกวาดล้างใหญ่ในครั้งนี้... ทั้งจะเป็นการจำแนกแยกแยะ...คนดี...คนเลว...เหมือนแยกหินกับหยกออกจากกัน ..."
บัดนี้ข้าฯ แฝงญาณ... ยืมปากกาท่านไหว้วานบรรดาผู้รู้จักตัวอักษรหนังสือ... คัดเขียนถ่ายทอดให้ข้า
แม้หนึ่งเล่มจะปกป้องรักษา... ให้ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง...
ถ่ายทอดให้ข้าฯ สิบเล่ม... ทั้งครอบครัวจะพ้นเคราะห์ภัยอันตราย...
เผยแพร่ออกไปให้ข้าฯ ร้อยเล่ม...จะปกปักรักษาให้อายุยืน... อีกทั้งโชคลาภวาสนาเพิ่มพูนทวี... รีบแจกจ่ายธรรมทานคัมภรีนี้โดยทันทีทันใด จะปกป้องรักษาให้เกียรติศักดิ์รุ่งโรจน์มียศถา...

หากพบผู้ใดไม่รู้หนังสือ... จงใช้วาจาเมตตาบอกต่อให้เขาได้ฟังได้เข้าใจ... ถ้าแม้นมีคนโฉดเขลาชั่วร้าย... ไม่ศรัทธา ...เคราะห์ภัยจะมาถึงตัว จะประสบวิบัติภัย... ให้ปวดเศียรเวียนหัว... หน้ามือตาลาย... เจ็ดทวารเลือดไหล ...ถึงที่ต้องไปเมืองผีด้วยสิบเหตุเภทภัยร้ายนั้น...

ข้าฯ ไม่อาจกล่าวให้ละเอียดมากความไปกว่านี้... คิดอยากจะเผยความลับสวรรค์ ก็เกรงด้วยเบื้องบนจะลงทัณฑ์...
หากคนทั้งหลายไม่เชื่อ... ไม่ศรัทธา ดูหมิ่น ดูแคลนว่าไม่จริง...ไม่นาน มหัตภัยที่กล่าวไว้จักมาถึงตัว...

"ผู้มีใจศรัทธา น้อมจิตเชื่อฟังตั้งมั่นอยู่ในคุณธรรม
ความดี ถือศีลกินเจเบื้องบนย่อมทรงโปรดเมตตา ปกป้องคุ้มครองให้แคล้วคลาด...
มิให้เภทภัยใดๆ เข้าใกล้ถึงตัวได้เลย"...
เง็กเซียนฮ่องเต้
มหันตภัยทั้งสิบนี้ยากจะหลีก หนีพ้น! หากสามารถผ่านพ้นไปได้จึงจะนับว่าเป็นยอดคน นี่แหละ คือ สิบมหันตภัยอันใหญ่หลวง ข้าฯ มีเพียงคำเตือนให้มนุษย์ทั้งหลายปรับปรุงเปลี่ยนแปลงจิตใจ ยังพอมีโอกาสจงรีบแก้ไขสำนึกในความผิดบาป
เมื่อได้ยิน ได้รู้ข่าวนี้ ให้เร่งกลับตัวกลับใจโดยทันที! อย่ามัวรีรอจนกระทั่งภัยพิบัติมาประชิดตัว ถึงตอนนั้น จะวิงวอนร่ำร้องไห้ ช่วยเหลืออย่างไรก็ไร้ผล จงสร้างบุญ ทำกุศล สะสมคุณความดีกันเสียแต่เนิ่นๆ เพื่อหลบหลีกและเป็นเกราะกำบังวิบัติภัย

เหล่าเวไนยสัตว์ทั้งหลายเอย... จง รีบเร่งตั้งจิตศรัทธาเคารพกตัญญูต่อฟ้าดิน บิดามารดา จังรักภักดีต่อชาติบ้านเมือง ประชาราษฎรคนยากจนให้รู้จักเจียมตน ตั้งมั่นอยู่ในความมัธยัสถ์ ผู้มากมั่งมีมั่งคั่งจงรีบเร่งช่วยเหลือเกื้อกูลแก่ผู้ยากไร้ ผู้ปราดเปรื่องเรืองปัญญา จงพยายามตักเตือนชี้แนะผู้ต่ำต้อยด้อยความรู้ ให้ได้ผ่านพ้นโลกโลกีย์ไปด้วยกัน บุคคลใด ไร้บุญบารมีจะตกจมลงสู่ทะเลทุกข์ แต่ผู้มีบุญสัมพันธ์สะสมมาดี ย่อมจะได้พบกับความสงบสุขและสันติในที่สุด

พระโอวาทพระองค์ธรรมมารดา...
พระโอวาทพระองค์ธรรมมารดา...
คัมภีร์
Copyright (c) 2010 All Rights Reserved.
ขึ้นบนสุด