เมื่อกิเลส ไหลนอง ยึดครองโลก
มันสุดแสน โสโครก ที่โกรกไหล
เมื่อกระแส ไฟตัณหา ไหม้พาไป
ทิ้งซากไว้ ระเกะระกะ อนิจจัง
กลับยกย่อง ว่านั่นสิ่ง ศิวิไลซ์
ยั่วความใคร่ เพิ่มเหยื่อ แก่เนื้อหนัง
เป็นเครื่องล่อ กามา บ้าติดตัง
ทั่วโลกคลั่ง ก็ยิ่งคล้าย อบายภพ
ทั้งแก่เฒ่า สาวหนุ่ม ล้วนจมกาม
เกลียดศีลธรรม เห็นเป็นหนาม ระคายขบ
อาชญากรรม ลุกลาม สงครามครบ
ร้อนตลบ โลกกิเลส สังเวชจริงฯ
ินิทานเรื่องสั้นของท่านพุทธทาส เรื่อง เทวดากับหนอน
นิทานเกิดขึ้น ที่ข้างส้วมแผนโบราณ แห่งหนึ่ง ในหลุมนั้น มีหนอนเจริญเติบโต อยู่ทุกขนาด ดำผุดดำว่าย อยู่อย่างยัวเยี้ย นับด้วยหมื่นด้วยแสน ท่านสมภาร ได้ชี้ให้เด็กๆ ดูในแง่ธรรมะที่ว่า หนอนเหล่านี้ กำลังมึนเมา อยู่ในของเน่าเหม็น และหลับหูหลับตา จมอยู่ในของสกปรก อย่างน่าสมเพช ซึ่งถ้านำไปเปรียบ กับเหล่าเทพยดา ในฉกามาวจรวรรค์แล้ว ก็จะชวนให้ สมเพช ยิ่งขึ้นไปอีก จนสุดที่จะ ทนไหวทีเดียว ใครๆ อย่าหลงพอใจในของสกปรก เหมือนหนอน เหล่านั้นเลย
หนอนหลายตัว ได้ยินคำพูดเหล่านั้น! หนอนบางตัว ได้คิดว่า แท้จริง ความพอใจในรสนิยม ของพวกเรา กับของเทพยดาทั้งหลาย ก็มีได้เท่ากัน และในลักษณะ ทำนองเดียวกัน ทั้งนี้ มันแล้วแต่ ลักษณะของอายตนะ เครื่องรับ และเสวยอารมณ์ นั้น ต่างหาก เราไม่เชื่อท่านสมภาร! หนอนบางตัว ได้พยายามลืมตาขึ้นดู ก็เห็นว่า มันออกจะสกปรก มากมายจริง แต่ทนลืมตาอยู่ไม่ไหว ต้องกลับหลับไปตามเดิม โดยเร็ว เพราะมันได้เห็น สิ่งอื่น ที่สกปรกกว่า อาหารบ้านเรือนของมันเอง จนทนลืมตาอยู่ไม่ไหว!
มันบอกพวกพ้องของมันว่า ชั่วที่ลืมตาขึ้นแวบเดียว ก็ได้เห็น เทพยดา มนุษย์ทั้งหลาย มีจิตจมอยู่ใน ความมืดมน ถือตัว ถือตน นานาประการ การกระทำทางกายวาจา ก็จมอยู่ในกรรมโสมม เลวทราม เนื้อตัวทั้งสิ้น จมอยู่ในกามารมณ์ กำลังทำสิ่งต่างๆ ด้วยความหลงใหล ในลาภยศ อำนาจวาสนา พวกพ้องบริวาร อันเป็นทางให้ได้มาซึ่งความมัวเมา ในความสุข ทางเนื้อหนัง ของตน อย่างไม่รู้จักอิ่มจักพอ อีกต่อหนึ่ง ถึงกับต้องอิจฉา ริษยารบราฆ่าฟันกัน ทั้งทางตรงและทางอ้อม อย่างป่าเถื่อน ทารุณ ชนิดที่ไม่เคยมี ในสมัยที่ยังไม่เกิด ส้วมชักโครก แผนปัจจุบันนั้นเลย ศีลธรรมของเขา คือ การกอบโกย ความสุข ทางเนื้อหนัง ใส่ตนอย่างเดียว แล้วเรียกชื่อกันเอาเอง อย่างไพเราะ ว่า มนุษย์สมบัติ สวรรค์สมบัติ ของฉัน
พูดกันดังนั้นแล้ว มันก็ชักชวน กันให้หลับตา ให้ยิ่งขึ้นกว่าเดิม เพื่ออย่าให้เสียเปรียบ หรือ ล้าหลัง พวกเทพยดา มนุษย์ทั้งปวง หรือ อย่างน้อยที่สุด ก็ให้พอเคียงคู่กันไป
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า: ผู้ที่พอใจในกามารมณ์ ชื่อเสียงยศศักดิ์ อำนาจวาสนา พวกพ้องบริวาร ทั้งหลายนั้น ขออย่าได้หาญ พยายามลืมตา เป็นอันขาด จะเป็นฝ่ายเสียเปรียบหนอน หรือ ลืมขึ้นมา ก็จะต้องรีบกลับ หลับตา ลงไปใหม่ เหมือนหนอน เหล่านั้นอยู่เอง ซึ่งทำให้เกิด เป็นปัญหา ขึ้นว่า ใครเล่าจะเป็น ฝ่ายชนะ? หรือว่าใครเล่า น่าสมเพช กว่าใคร ในระหว่างพวก เทพยดา ใน ฉกามาวจรสวรรค์ และ หนอนใน ส้วมแผนโบราณ เหล่านั้น?
คัดจากหนังสือ นิทานเซ็น มหรสพทางวิญญาณเพื่อจริยธรรม เล่าโดย.. ท่านพุทธทาสภิกขุ แห่งสวนโมกขพลาราม ณ หอประชุมคุรุสภา พุทธศักราช ๒๕๐๕ พิมพ์โดย ธรรมสภา