ส่วนเสริม
ปาณาติปาตา เวรมณีศีล (ละเว้นจากการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต)
การไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตคือการปฏิบัติในความเมตตา การไม่ลักทรัพย์คือการเพิ่มพูนคุณธรรม การไม่ประพฤติผิดในกามคือ การเสริมสร้างจริยามารยาท การไม่พูดจาโป้ปดมดเท็จคือ การเติบโตทางปัญญา การไม่ดื่มสุราคือการรักษาสัจจะ
หมายเหตุ ไม่ควรฆ่ามดแมลง ไม่ควรซื้อสุราให้ผู้อื่น หากทำไปด้วยความไม่รู้ ก็จะถือเป็นการละเมิดศีลได้ เมื่อละเมิดศีลแล้วก็ไม่สามารถหลุดพ้นได้
พระอาจารย์กล่าวไว้ว่า จะต้องมีความเมตตาในทุกสภาวะ สามารถอยู่ร่วมเป็นหนึ่งเดียวกับสรรพชีวิตได้ เช่น เสือกินคนเป็นอาหารได้ แล้วคนจะต้องยอมเป็นอาหารของเสือหรือ ? ยุงดูดเลือดคน แล้วคนจะต้องยอมให้ยุงดูดเลือดด้วยหรือ? คนเราจึงต้องรู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา จึงจะไม่เกิดความผิดพลาดในชีวิตตน
พระอาจารย์ยังเมตตาอีกว่า
1. พลังงานน้ำสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานแสงได้ พลังงานแสงนั้นก็สามารถกลายเป็นพลังงานไฟฟ้าได้ (สสารสามารถเปลี่ยนเป็นอะตอมได้) คนเราสามารถบำเพ็ญธรรมได้ ก็จะสามารถผันแปรกฎแห่งกรรมได้ คนเราไม่สามารถบำเพ็ญธรรมได้ ก็ไม่สามารถผันแปรกฎแห่งกรรมได้
2. ห้องที่มีการประดิษฐานพระพุทธรูป ควรระมัดระวังเรื่องเปลี่ยนเสื้อผ้าอาภรณ์ในห้อง รูปภาพพระพุทธะที่เก่าแล้ว ขาดแล้ว ให้ม้วนเก็บเอาไว้อย่าเผาทำลาย ม้วนเก็บเอาไว้ก็พอ ไม่เช่นนั้นถ้านำไปเผาพร้อมขยะก็จะเป็นการไม่เคารพต่อพระพุทธ
3. อย่ามีจิตคิดร้ายมุ่งทำลายพระพุทธรูป
4. เลี้ยงสัตว์จนมันสิ้นอายุขัยแล้วนำไปฝังให้มันไปเกิดในภพชาติใหม่ อย่านำมันไปขายหรือส่งมอบให้ผู้อื่น สวดมนต์ท่องคาถาให้ไปสู่สุคติภูมิ อย่านำมันไปให้คนอื่นฆ่ากิน
หากเคยทำผิดดังกล่าวข้างต้น ให้จุดธูปสามดอก ขอขมาสำนึกผิด เคยทำผิดฆ่าคน ก็ให้สร้างบุญกุศลอุทิศให้เขาไป ทำโดยไม่ตั้งใจมีโทษเบา ทำโดยเจตนามีโทษหนัก
5. การทานเจสามวัน หกวัน หรือเก้าวันเป็นเรื่องของการปฏิบัติ(มองดูการปฏิบัติ) ผู้บำเพ็ญที่แท้จริงจะมองที่ใจ
6. คนที่ทานเจ เวลาซื้ออาหารควรจะต้องถามไถ่ดูก่อน จะต้องมีความคิดที่เที่ยงตรง หากไม่ระวัง กินอาหารคาวเข้าไป ก็ให้กลับมาจุดธูปขอขมากรรม
7. หากโชคไม่ดีมีสุนัขวิ่งตัดหน้ามาทำให้เราชนมันตาย วิบากกรรมของสุนัขนั้นยังไม่หมด มันยังคงต้องกลับชาติมาเกิดเป็นสุนัขอีก หากวิบากกรรมสิ้นสุดก็ได้กลับชาติมาเกิดเป็นคน (ในกรณีที่มันวิ่งออกมาให้คนขับรถชนตายเอง)
8. เมื่อเกิดความคิดที่จะซื้ออาหารเนื้อสัตว์ของคาว ผลกรรมนี้ไม่เกี่ยวข้องกับอาจารย์
9. การฆ่าหมูเพื่อเป็นเครื่องเซ่นอธิษฐาน ก็เท่ากับหาความยุ่งยากใส่ตนเอง ในเมื่อยังไม่ทันได้สร้างบุญกุศลเลยก็สร้างบาปกรรมเสียแล้ว อย่าได้หลงคล้อยไปตามกระแสนิยมประเพณี อย่าได้ไปวอนขออธิษฐานตามศาลเจ้า หลีกเลี่ยงการเข้าองค์ทรงเจ้าต่าง ๆ การนำอาหารคาวไปกราบไหว้บรรพชนก็มีแต่จะเพิ่มบาปกรรม เนื่องจากยังไม่ได้รับการฉุดช่วยดวงวิญญาณ
10. อย่ายึดติดกับนิมิตความฝัน
จากข้างต้นจะต้องระวัง จึงจะไม่ทำลายธรรมกิจ ขอเพียงมีความตั้งใจหนึ่งเดียวที่จะบำเพ็ญปฏิบัติด้วยความซื่อสัตย์ จิตใจจะต้องมีความเที่ยงธรรมจึงจะดี มีเพียงการถือศีล จึงจะสามารถผ่อนวิบากกรรมให้เบาบางลงได้ หากตัวพระอาจารย์ ยังไม่สามารถฉุดช่วยตนเองแล้ว จะฉุดช่วยผู้อื่นได้อย่างไร? การ "ดูดวง" หรือ "ทำนายชีวิต" มักจะอาศัยอัตวิสัย(มุมมองส่วนตน) มาพิพากษาคนอื่นในการสร้างบาปกรรม เช่นนี้จะมีผลในแง่ลบ ย่อมจะไม่เป็นผลดีต่อการบำเพ็ญปฏิบัติ
ศีลวินัยในข้างต้นนั้นละเอียดยิ่งนัก ตนเองมีความเพียรบำเพ็ญปฏิบัติหรือไม่ จะบำเพ็ญเต็มร้อยหรือไม่ได้ตามเกณฑ์นั่นก็ขึ้นอยู่กับตนเอง หากว่าตนเองสักแต่คำนึงถึงความสบายแล้ว เมื่อกลับคืนไปยังจะต้องคิดบัญชีกันแน่นอน เราบำเพ็ญในปฏิปทาพระโพธิสัตว์จะต้องมีความมานะพากเพียร
การเสพสุข เสพบุญวาสนา จนบุญวาสนาหมดสิ้นไปแล้ว จะต้องรับทุกข์ การลบล้างบาปกรรมนั้น จงอย่าได้ทำลายจิตโพธิสัตว์ของผู้อื่นโดยเด็ดขาด จะต้องใช้วาจาที่แสดงความห่วงใย ชื่นชมเขาจะเป็นการดีกว่า
อทินนาทานา เวรมณีศีล (ละเว้นจาการลักทรัพย์)
ทุกขณะจิตจะต้องทำจิตใจให้บริสุทธิ์ เมื่อบังเกิดความคิดขึ้นมาแล้ว จะต้องลองถามตนเองว่าสมควรหรือไม่ที่จะเกิดความคิดเช่นนี้ จะได้ไม่ต้องสร้างมลทินให้กับกายใจ
1.สมณะก็ต้องปฏิบัติตามกฎของสมณะ ซึ่งเป็นกฎที่ละเอียดมากยิ่งขึ้น ส่วนพวกเราก็คือส่วนหนึ่งของอาณาจักรธรรม
2. สามารถมาทานอาหารที่พุทธสถานได้ แต่ก็ไม่ควรจะมีจิตใจคับแคบจนเกินไป ขอให้หมั่นทำทานก็แล้วกัน
3. เพลิงโทสะภายในไม่ดับอัคคีภัยภายนอกไม่สิ้น
4. บางคนถือปฏิบัติเคร่งครัด บางคนก็ผิวเผิน จะถือศีล 3 หรือไม่หน่วงเหนี่ยวศีลให้ผิดเพี้ยน ทางที่ดีควรจะถือให้เต็มร้อย
5. ถ้าคนเราไม่มีวิบากกรรม(ความทุกข์) มาผูกมัน ก็จะหลุดพ้นง่าย บำเพ็ญปฏิบัติได้ง่าย
6. เพลิงอวิชชาสามารถเผาผลาญป่าบุญกุศลให้วอดวาย เผาจิตญาณแล้ว เมื่อจิตญาณถูกเผาบุญกุศลก็จะถูกทำลาย ขันติบำเพ็ญได้ยาก เวไนย์สัตว์ยุคปลายกัปมีรากฐานจิตใจขลาดเขลา ใช้อารมณ์เป็นใหญ่ คนที่อยู่ในแผ่นดินใหญ่ ต่างมณฑลควรจะลดการบริโภคพริกให้น้อยลง หากงดได้ก็ขอให้งด
อาจารย์ถ่ายทอดธรรมจะต้องตัดขาดจากเรื่องราวความสัมพันธ์ทางชายหญิง ผู้แนะนำผู้รับรองโปรดคนมารับธรรมด้วยความเหนื่อยยาก อาจารย์ถ่ายทอดธรรมจะมิให้เขามารับธรรมไม่ได้ จะยืนกรานปฏิเสธไม่ได้ อาจารย์ถ่ายทอดธรรมมีแต่ต้องดำเนินกิจอย่างมีมโนธรรม และปราศจากอำนาจ(พระอาจารย์ล้วนแต่เปิดโอกาสให้เวไนย์สัตว์ครั้งหนึ่งเท่านั้น) ปัจจุบันนี้นิยมสินค้าซื้อหนึ่งแถมหนึ่ง เมื่อผู้แนะนำผู้รับรองนำพาเขามาแล้ว อาจารย์ถ่ายทอดธรรมจะต้องเห็นธรรม ส่งเสริมธรรม หากว่าเขาปฏิเสธธรรม นั่นก็ถือว่าเขาไร้บุญสัมพันธ์ ให้โอกาสเขาแล้วเขาไม่มาก็ตามแต่บุญปัจจัยก็แล้วกัน
สมัยก่อนต้องคุกเข่าคลานกันเข้ามารับวิถีธรรม เวไนย์สัตว์ในยุคปลายกัปนำพากรรมมาบำเพ็ญปฏิบัติ(บำเพ็ญตามกุศโลบาย) แม้ว่ามหาธรรมจะไร้ใจ แต่เวไนย์สัตว์ยังมีใจ พระอาจารย์ล้วนให้โอกาสแก่เวไนย์สัตว์สักครั้งหนึ่งเพื่อได้รับการฉุดช่วยเสมอ
พระพุทธเจ้า....พ้นจากชะตาชีวิตการบำเพ็ญธรรม จึงไม่ควรจะมาทำนายดวงชะตา จะต้องยอมรับชะตากรรม(รู้ชะตากรรมแล้วกำหนดชะตากรรม) องค์พระศากยราชกุมาร(เจ้าชายสิทธัตถะ) พระราชธิดาอวโลกิเตศวร พระองค์ต่างละทิ้งครอบครัวมาบำเพ็ญธรรม ทำให้พระราชบิดาและพระราชชนนีทรงทุกข์พระราชหฤทัย แต่ก็ทรงทำไปเพื่อดำเนินในมหากตัญญุตาธรรม ฉะนั้นจะต้องหมั่นศึกษาพระจริยวัตรของพระอริยะบุคคลให้มาก ๆ
หากพวกเรารู้จักหัวขโมยนั้นก็จะต้องตักเตือนเขา หากสามารถตักเตือนได้ก็เตือน มิฉะนั้นจะเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดทำผิด ร่วมกันสร้างวิบากกรรม เพียงแค่รับวิถีธรรมแต่ไม่มาลบล้างหนี้กรรม ทางที่ดีก็ขอให้หมั่นทำทานให้มาก ๆก็แล้วกัน
หมายเหตุ.....อทินนาทานา เวรมณีศีล(ละเว้นจากการลักทรัพย์)
1) สละได้ก็ให้พยายามเสียสละ อย่าได้เปรียบเทียบกับผู้หนึ่งผู้ใด ว่าจะต้องอย่างนั้นอย่างนี้ แต่ละคนย่อมจะมีวิถีการบำเพ็ญปฏิบัติของแต่ละบุคคลไป (ศาสนาอื่น ๆก็เช่นกัน)
2) แม่ครัวในห้องครัว จะต้องจัดการอย่างระมัดระวัง
3) จะต้องช่วยกันดูแลอาณาจักร ให้กำลังใจกันและกัน อย่าได้ไปใส่ร้ายทำลายอาณาจักรธรรมของผู้อื่น ผู้อยู่ตำแหน่งเบื้องสูงจะต้องหมั่นดูแลรักษา ใช้บารมีธรรม(คุณธรรม) ไปโปรดคน แต่ละคนต่างก็มีต้นเหตุผลกรรมของแต่ละคนไป จะต้องหมั่นช่วยกันดูแลอาณาจักรธรรม
4) การฟังธรรม....ไม่ใช่ว่าอาจารย์ถ่ายทอดธรรมของสายอื่น ผู้น้อยสายอื่นจะมาร่วมฟังไม่ได้ แต่เมื่อฟังไปแล้วกลับไปจะต้องรู้จักบำเพ็ญ
พระราชบุตรสามโกมินทร์เมตตาว่า....
1. มีกตัญญูรู้จักสร้างฐานครอบครัว สั่งสอนลูกหลานแล้วหรือยัง? จะต้องทำให้เขาเห็น มนุษยธรรมจะต้องถึงพร้อม เทวธรรม(โลกุตตรธรรม)จึงจะสมบูรณ์
2. ไม่มีพระพุทธเจ้าพระองค์ใดที่ไร้ความกตัญญู ไร้ความภักดี ให้คล้อยตามบุญปัจจัย กระทำเต็มกำลังความสามารถของตนก็แล้วกัน
3. มีบุญปัจจัยมาก็อยู่ร่วมกัน บุญปัจจัยสิ้นก็จะจากกันไป อย่าได้ยึดติด(การพบจากของวาระเหตุปัจจัย)
4. การปฏิบัติธรรมกิจที่ต่างประเทศ ต่างคนต่างก็มีบุญปัจจัยของตน ขอให้คล้อยตามบุญปัจจัย ทำเต็มกำลังความสามารถของตนก็แล้วกัน
5. คนที่สามารถไปยังต่างประเทศได้ก็ให้ไป ออกไปครั้งหนึ่งก็ไม่ต้องคำนึงว่ายาวนานเพียงใด
6. ลูกไก่จะต้องเติบโตเป็นแม่ไก่ให้ได้ แล้วค่อยไปคุ้มครองลูกไก่ตัวอื่น ๆต่อไป
7. สิ่งศักดิ์สิทธิ์จะช่วยผลักดันได้ระดับหนึ่งเท่านั้น เห็นธรรมแล้วส่งเสริมธรรม สิ่งสำคัญคือจะต้องพึ่งตนเอง
8. ละครธรรมกาลยุคขาวจะต้องอาศัยสิ่งมายามาบำเพ็ญสิ่งแท้จริง ดังนั้นจะต้องบรรลุมนุษยธรรมให้ได้ เทวธรรม(โลกุตตรธรรม) จึงจะสามารถสมบูรณ์
9. ไม่ต้องแสวงหาว่าจะร่ำรวยเพียงใด อยู่อย่างร่มเย็นสงบสุขก็คือบุญวาสนา ไม่ต้องผืนเรียกร้อยเหตุปัจจัยต่าง ๆ ให้ถนอมวาระโอกาสปัจจุบัน จึงจะเป็นบุญวาสนา
10. ยามที่พี่น้องมีปัญหากันนั้น อาจารย์ถ่ายทอดธรรมจะต้องยื่นมือเข้ามาแบกรับแก้ไข ไปสร้างความเข้าใจปัญหาให้กับพี่ ๆน้อง ๆ จิตของเจ้าอยู่ที่เวไนย์สัตว์ เวไนย์สัตว์จึงจะสามารถเข้าใจถึงจิตใจของเจ้าได้
11. การบำเพ็ญธรรมจะต้องเดินตามสัจธรรม คล้อยตามหลักโคจรของสัจธรรม ให้นำคุณสัมพันธ์ 5 คุณธรรม 8 ปฏิบัติออกมาให้เห็น อย่าได้ยึดถือตัวบุคคลในการบำเพ็ญโดยเด็ดขาด
12. ช่วงเดือน 6 อย่าปล่อยให้อารมณ์มันร้อนแรงเกินไปนัก ให้ช่วยกันแบกรับอย่างเท่าเทียมกัน ถือความเสมอภาคกันของเวไนย์สัตว์เป็นหลัก
13. จะสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้าได้หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับจิตใจ มิใช่อยู่ในสถานะตำแหน่งใด ๆในโลกนี้ ให้ค้นหาจิตดั้งเดิมแท้ของตนให้พบเป็นพอ
14.เภทภัยในปัจจุบัน มาเป็นระลอก ๆ หากคิดจะหลีกเลี่ยงมัน มิสู้เผชิญหน้ากับมันอย่างห้าวหาญกันดีกว่า
กาเมสุมิจฉาจารา เวรมณีศีล (ละเว้นจากการประพฤติผิดในกาม)
พระอาจารย์ตอบประเด็นข้อสงสัยของศิษย์ (ผู้เข้าอบรม) ในชั้นอบรมธรรม
1. เมื่อไม่มาอาณาจักรธรรมก็เท่ากับขุดหลุมฝังตนเอง หลักธรรมสามารถนำเข้าสู่ครัวเรือนได้ (การบำเพ็ญปฏิบัติคือการสร้างความสมบูรณ์พูนพร้อมทั้งระบบ) ดำเนินโครงสร้าง 3 นิรันดร์ 5 คุณสัมพันธ์ 5 คุณธรรม 8 จะขาดหลักธรรมใดหลักธรรมหนึ่งไม่ได้
2. พ่อแม่แบกรับภาระเพื่อพวกเรา ส่วนพวกเราจะมีความกล้าที่จะแบกรับเพื่อชนรุ่นต่อไปหรือไม่?
3. ลูกของตนเองไม่เคยคอยห่วงใยเขา พอเกิดเรื่องมีปัญหาขึ้นมาแล้วโทษหลักธรรม เช่นนี้ก็จะเกิดอุปสรรคทางทัศนคติอย่างมากมาย
4. วิบากกรรมไม่มีอะไรน่ากลัว ที่น่ากลัวคือไม่ทำความเข้าใจกับมัน พระโพธิสัตว์จะไม่ปฏิเสธหลีกหนีวิบากกรรม(ความยุ่งยาก) โปรดเวไนย์สัตว์อยู่ในทะเลทุกข์ พระอรหันต์กลับกลัววิบากกรรม(กลัวความยุ่งยาก) ไม่กล้าที่จะโปรดเวไนย์สัตว์
5. กามเป็นสิ่งที่ผูกมัดคนแน่นหนาที่สุดในจักรวาล หากว่าตัดมันไม่ขาด สามารถใช้การเพ่งพิจารณา ว่าร่างกายของคนเรานั้นไม่บริสุทธิ์ มีขี้มูก ขี้ตา อุจจาระ ปัสสาวะ ....เป็นต้น ไม่มีสิ่งที่ไม่โสมม สำหรับสตรีในโลกีย์ ให้พิจารณาว่าหล่อนเป็นพ่อแม่พี่น้องของเราในอดีตชาติ 3 ชาติ (เวไนย์สัตว์ในคติ 6 ทั้งหลาย ล้วนเป็นพ่อแม่เราในอดีตชาติ จะล่วงละเมิดไม่ได้)
6. พฤติกรรมการใช้เงินตรา เพื่อแลกกับกามตัณหา ถือว่าเป็นเรื่องที่ไร้คุณธรรมที่สุด
7. การเลี้ยงสุนัขตัวผู้และสุนัขตัวเมียไว้ให้เกิดลูกสุนัขเพื่อนำไปขาย มันไม่ดี เป็นการกระทำที่ก่อเกิดมลทินทางความคิด
8. การขี่ม้าจะกระตุ้นกามารมณ์ สัตว์ทั้งหลายก็เหมือนพี่น้องของเรา การขี่มันก็เท่ากับเป็นการทารุณมัน (อย่าไปสถานเลี้ยงม้าเด็ดขาด)
9. อย่านำเรื่องราวภายในครอบครัวของผู้อื่นไปป่าวประกาศ จะต้องรู้จักชื่นชมผู้อื่น
10.เมื่อสิ้นบุญแล้ว สุภาพบุรุษนั้นนัยน์ตาจะเน่าก่อน ส่วนสุภาพสตรีปากจะเน่าก่อน
11. เรื่องของสามีภรรยา เป็นเรื่องส่วนตัว อย่าเข้าไปยุ่งเกี่ยว มิฉะนั้นจะนำเคราะห์ภัยมาสู่ตน
12. กามตัณหาเป็นเรื่องเคร่งครัดสำหรับเหล่าสมณะ คุณธรรมสัมพันธ์แห่งความเป็นคนนั้นสำคัญกับฆราวาส อย่าละทิ้ง ครอบครัวจะได้ไม่เกิดปัญหา
13. อาณาจักรธรรมไม่เรื่องมาก แต่ใจคนนั้นมากเรื่อง
ผลกรรมจากการล่วงละเมิดศีลกาเมสุมิจฉาจารา
(3) ญาติพี่น้องไม่ได้เป็นดังใจที่หวัง หย่าได้ยุแหย่ภรรยาของพี่น้องให้แตกแยกกัน มิฉะนั้นแล้วจะได้ภรรยาที่ดุดันร้ายกาจ ประพฤติตนไม่ดี ออกนอกลู่นอกทาง ได้สามีหรือภรรยาที่ไม่น่ารัก
หมายเหตุ เมื่อจะแต่งงานจะต้องดูให้ดีเสียก่อนว่า คู่ครองคนนี้ยังไม่เคยแต่งงานมาก่อน หากคู่ครองคนนี้เคยแต่งงานแล้ว ไม่ว่าเขาหรือเธอจะหล่อจะสวยปานใด ก็ไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยว และอย่ามันแต่ขลุกอยู่ในพุทธสถาน โดยไม่สนใจครอบครัวตนเอง จัดการเรื่องราวในครอบครัวไม่เรียบร้อย ย่อมจะถูกตรวจสอบอยู่ตลอดเวลา หากดูแลบ้านเรือนให้สะอาดเรียบร้อย มีใบหน้ายิ้มแย้มอ่อนโยน จึงแสดงถึงการดำเนินในธรรม ดำรงอยู่ในสถานภาพของตน อย่าทำตัวเป็นมหาราชาในพุทธสถาน และทำตัวเป็นทรราชย์เมื่ออยู่ที่บ้าน จะต้องดูแลสภาพแวดล้อมที่ตนอยู่ให้ดี แต่ก็ไม่ใช่ขลุกอยู่ที่บ้านดูแต่ทีวีทั้งวัน จะต้องดูแลชีวิตของตนให้ดีด้วย อย่าได้ไปชี้แนะส่งเสริมผู้อื่นให้ทำตัวเยี่ยงเจ้า ผู้อื่นจะแต่งงานก็ไม่ต้องไปคัดค้าน แต่ก็ไม่ต้องชื่นชมสนับสนุน ปล่อยทุกอย่างให้เป็นไปตามธรรมชาติ
หมายเหตุ การนั่งสมาธิเพื่อเก็บจิตฟุ้งซ่านกลับคืนมา เมื่อจิตเป็นสมาธิก็จะตัดความฟุ้งซ่านออกไม่ได้ หากไม่มีจิตฟุ้งซ่าน ก็จะสามารถนั่งสมาธิได้นาน ผู้บำเพ็ญในสมัยก่อน เห็นสตรีดั่งเห็นความชั่วร้าย วีรบุรุษยากที่จะพ้นด่านของสตรีไปได้ เมื่อนางผู้เลอโฉมอ้างถึงความตาย ต่อให้เป็นผีก็ยินยอมที่จะต้องทำให้หล่อนพึงพอใจ
สุภาพบุรุษทั้งหลายจะต้องหมั่นบำเพ็ญขัดเกลาศีลข้อนี้ รักษาใจให้บริสุทธิ์ จะต้องเคารพภรรยา มิใช่เรียกภรรยาว่าผีตายซาก แล้วก็หาเศษหาเลยนอกบ้าน ส่วนภรรยาต้องมีความภาคภูมิใจในตัวสามี สามีก็ต้องยกย่องชื่นชมที่ภรรยามีความอดทนต่อความทุกข์ยากได้ อย่ามัวแต่รักสนุก ซึ่งจะนำพาความเดือดร้อนมาสู่ตนภายหลัง เปรียบเหมือนกับการเชิญเทพเจ้าเข้าบ้านนั้นแสนง่าย แต่การเชิญเทพเจ้าออกจากบ้านนั้นแสนยาก สร้างความผูกพันซึ่งกันและกัน มีมารยาทต่อกัน ให้ความเคารพซึ่งกันและกัน
พระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ตั้งมั่นไว้ว่า ข้าไม่ลงนรกแล้วใครจะลงนรก (คนที่ตั้งปณิธานกินเจแล้วต้องแต่งงานกับคนที่ไม่ทานเจก็ให้โปรดเขา นำพาเขาให้ทานเจ บำเพ็ญธรรม โปรดบรรพชนและลูกหลานของเขา)
อย่าโอ้อวดกันในเรื่องของการบำเพ็ญปฏิบัติธรรม การโอ้อวดความสามารถกันมิใช่เป็นการทุ่มเทในครอบครัวหนึ่ง คนหนึ่งนับถือพระอัลเลาะห์ คนหนึ่งนับถือพระยะโฮวา อาจารย์จะปล่อยให้เป็นไปตามเหตุปัจจัยของแต่ละคน จะไม่คัดค้าน แต่ก็ไม่สนับสนุน ปล่อยทุกอย่างให้เป็นไปตามธรรมชาติ
กระจกนั้นมีไว้ส่องตัวเองอันดับแรก ข้อบกพร่องของผู้อื่นอย่านำมาเป็นข้อสนทนาบนโต๊ะอาหาร คนที่อายุมากก็จะต้องเสริมสร้างบารมีให้สูงส่ง
มุสาวาทาศีล
หมายเหตุ
1. จะต้องรู้จักมีอารมณ์ขัน อยู่ในโลกนี้จะต้องไม่พูดจาหยาบคาย โป้ปด นินทา เพ้อเจ้อ
2. ตั้งปณิธานกานเจ (ต้องชำระปากให้บริสุทธิ์) และหมั่นศึกษาหาความรู้ทางธรรมด้วย คนที่ขับรถแท็กซี่ก็ใช้คำพูดหยาบคาย หญิงสาวก็เอาแต่ด่าว่าเด็ก ๆ สิ่งเหล่านี้จะต้องระมัดระวัง พยายามพูดแต่คำพูดไพเราะ หากผู้ชายทำตัวไม่ได้เรื่องได้ราว ก็อย่าด่าว่าตำหนิ ตนเองจะต้องมีความหนักแน่น
วิธีทางโลก คือ การขจัดข้อขัดแย้งต่าง ๆในชีวิตประจำวัน สามีไม่ตรงต่อเวลา ก็ต้องนั่งรอเขา เรียกให้เขาอาบน้ำ เตรียมน้ำไว้ให้อาบแล้ว พูดคุยถามไถ่เขาบ้าง หากทำไปแล้วหนึ่งวัน สองวัน สามวันก็ยังไม่ได้ผล ทำให้เขาเห็นใจไม่ได้ ก็ต้องปล่อยเขาไป มีแต่อดทนและยอมรับชะตาชีวิตของตนเอง แต่ก็พยายามทำให้ดีที่สุด ให้เขาเห็นใจรับรู้ หากไม่ได้ผล ตนเองจะต้องรู้จักปล่อยวาง (บางทีอาจจะมาพักอยู่ที่พุทธสถานสักสองสามวัน แต่ก็อย่าให้นานเกินไป มิฉะนั้นแล้วจะเกิดความไม่สมบูรณ์ขึ้น แต่อย่าไปบอกว่าอาจารย์สอนเจ้านะ หรือมาก่อความวุ่นวายที่พุทธสถานก็ไม่ได้นะ
3. จงอย่ามีความคิดอยากตาย อย่าได้มีคำพูดที่จะขอหย่าขาด เพื่อทำลายความเชื่อมั่นไว้ใจของคู่ครอง
4. ไม่พูดจาเพ้อเจ้อ ผู้บำเพ็ญให้พูดจาแต่น้อย พูดแต่ความจริงและต้องเป็นคำพูดสร้างสรรค์ด้วย
5. การหลอกลวงโดยเจตนาดี ต้องเป็นไปเพื่อช่วยเหลือมหาชน เป็นไปเพื่อช่วยแก้ไขความทุกข์ กลัดกลุ้มใจของผู้อื่นก็ไม่เป็นไร
6. คำพูดหยาบคาย ไม่น่าฟัง ให้หลีกห่างจากคนประเภทนี้ อย่าได้พูดจาที่ทำให้ผู้อื่นสับสน
7. อย่าเชื่อใจคนง่าย ๆ แล้วระบายความในใจโดยพูดถึงข้อบกพร่องของผู้อื่น ยุแหย่ให้แตกแยก ต้องระมัดระวังคำพูดและการกระทำ จะต้องพยายามพูดในส่วนดีของคนอื่น
8.. การพูดจาโป้ปด ยุแหย่ โดยเฉพาะสตรีจะทำให้ครอบครัวผู้อื่นแตกแยกได้ง่าย
9. พระพุทธะบำเพ็ญเพียรทุกคำพูดมาจากใจจริง พูดในสิ่งที่มีประโยชน์ ส่วนคนเราจะต้องรู้บำเพ็ญรู้ละอายใจ การทำงานต่าง ๆจึงจะเกิดผล กู่เต๋อกกล่าวไว้ว่า "นั่งสมาธิให้พิจารณาถึงความผิดพลาดของตน ไม่ควรสนทนาวิพากษ์วิจารณ์ในความผิดของผู้อื่น
10. อย่ากล่าวคำหยาบคายที่ทำให้ผู้อื่นเจ็บช้ำน้ำใจ (เช่นคนที่หน้าตาไม่สวยอยู่แล้ว เรายังจะไปพูดว่าเขาว่ามีกรรมหนัก)
พระอาจารย์กล่าวเมตตาว่า คนโง่ก็บำเพ็ญแบบคนโง่ มีเพียงผู้ที่มีปัญญาเป็นเลิศกับผู้ที่โง่เขลาเท่านั้นที่จะบำเพ็ญธรรมได้ดี ส่วนคนที่อยู่ระดับกลางมักจะขึ้น ๆลง ๆ มักจะหวั่นไหวไปตามกระแสคลื่นทางโลก ยากที่จะบำเพ็ญได้ คำพูดที่รื่นหูฟังแล้วสบายใจ เวไนย์ต่างต้องการให้ผู้อื่นห่วงใย และการเป็นคนแข็งกระด้างไม่ยืดหยุ่นเถรตรงก็ไม่เหมาะสม จะต้องให้ความเมตตาต่อผู้อื่น ผู้น้อยต้องรู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา ให้มีความนอบน้อมเป็นที่น่าเอ็นดูของใครต่อใคร ขอให้สุภาพสตรีมีจิตเมตตา แต่อย่าได้มีความรักความสัมพันธ์แฝงเร้นอยู่ จะต้องแบ่งขอบเขตอย่างชัดเจน มิฉะนั้นจะตกอยู่ในห้วงของความรัก สามีภรรยาร่วมบำเพ็ญไปพร้อมกันก็จะไม่เกิดความยุ่งยาก
การตอบคำถามไขข้อสงสัย
1. ส่งคนป่วยไปโรงพยาบาล ก็จะต้องเชื่อใจหมอ หากไม่ไว้วางใจหมอก็ส่งต่อไปยังโรงพยาบาลอื่น ระยะนี้ท่านอาวุโสป่วยหนังจนเลอะเลือน ซึ่งถือเป็นวิบากกรรมส่วนตัว จะต้องทำให้ญาติธรรมเชื่อมั่น ให้ความช่วยเหลือ เมื่อเจ็บป่วยก็ให้ทำทานสร้างบุญ ผู้นำจะต้องบำเพ็ญกาย วาจา ใจ เมื่อผู้อื่นเจ็บป่วยก็มักจะพูดว่าเป็นวิบากกรรมของเขา วันข้างหน้าตนเองก็อาจจะเป็นบ้าง และถูกคนอื่นพูดว่าเป็นกฎแห่งกรรม เคยว่าเขาอย่างไร เขาก็ว่าเรากลับเช่นนั้น
2. งานในอาณาจักรธรรมมีมากมาย จะต้องดูแลระวังเรื่องสุขภาพให้ดี
3. ไม่ใจร้อน ร้อนรา เลือดลมก็จะไหลเวียนดี เลือดลมไหลเวียนไม่ดี เลือดก็จะเคลื่อนไหลไม่คล่อง เชื้อโรคก็จะเติบโตได้เร็ว
4. ท่านเฉียนเหยินสิ้นบุญไปแล้ว แต่ก็ยังสำแดงปาฏิหาริย์ไปทั่ว เพื่อช่วยเหลืองานธรรม มีคนกล่าวว่า "ยอมทุ่มเทถวายชีวิต แม้ตายก็ไม่เสียดาย" ผู้บำเพ็ญแม้จะสิ้นบุญไปแล้วแต่ก็ไม่เลิกละที่จะส่งเสริมธรรม
5. การบำเพ็ญธรรมอย่าได้ยึดถือในความคิดของตน ไม่ยึดมั่นถือมั่นในอัตตา ไม่มีอคติใด ๆ
6. ปฏิบัติงานธรรมมาจนถึงกาลโอกาสนี้ ผู้ที่สมควรบรรลุก็ได้บรรลุ วิธีการที่จะหลุดพ้นจากกายสังขารของแต่ละคนไม่เหมือนกัน จะต้องมองให้ทะลุปรุโปร่ง มองด้วยใจปกติ การรับความทุกข์ทรมานเป็นการลดกรรม บรรลุกรรม บรรลุปณิธาน
7. แม่ครัวควรจะปรุงอาหารที่น่ารับประทาน มีประโยชน์ทำให้ผู้ที่ทานเจเกิดความเชื่อมั่น
การพูดจาเพ้อเจ้อ พูดจาโกหกทุกวี่ทุกวัน ก็เหมือนกับการกินอาหารในปริมาณมาก ย่อมส่งผลต่ออาณาจักรธรรม จะต้องถือศีลห้าให้ครบถ้วน จึงจะบรรลุมรรคผลได้ การบำเพ็ญจะต้องสั่งสมประสบการณ์ มิฉะนั้นก็จะเป็นเพียงแค่ผูกบุญสัมพันธ์ การถือศีลข้อหนึ่ง ก็จะมีเทวาคุ้มครอง หมั่นรักษาปากให้บริสุทธิ์ อนาคตจะได้เป็นผู้มีวาทศิลป์ดี มีใบหน้า บุคลิกที่งามสง่า
หมายเหตุ
1. การคลุกคลีหลงมัวเมาในสุรานารี จะทำให้อนาคตมืดมน
2.กายใจสับสนวุ่นวาย มักจะคิดถึงสิ่งที่ไม่เป็นความจริง
3. ล้มเหลวในหน้าที่การงาน คอยคิดแต่หาวิธีผิดกฎหมาย ทำให้ห่างไกลจากสิทธรรมห่างไกลจากอาณาจักรธรรม อายตนะทั้งหกค่อย ๆมืดมน
ผู้บำเพ็ญธรรม ถือศีลห้าอยู่ในสภาพสังคมที่มีการเอารัดเอาเปรียบ การปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยสูง การพนัน สังคมที่ล่อแหลม จะต้องคอยปรับเปลี่ยนการดำเนินชีวิตของตนเองอยู่เสมอ ก็จะไม่พบกับความยากลำบาก มีเพื่อนร่วมบำเพ็ญธรรม
4. การหลงเมามันจนไม่ลืมหูลืมตา ผู้ที่เข้าร่วมงานมงคลต่างก็ชื่นชอบในรูปกาม จึงเรียกว่าสุรากาม (ไม่ว่าชายใดต่อให้เป็นวีรบุรุษก็ยากที่จะก้าวพ้นด่านอิสตรี) สามวันไม่ได้กินเนื้อก็น้ำลายหก ไม่มีเรี่ยวแรง น้ำลายฟูมปาก จวนจะย่ำแย่อยู่แล้ว
หมายเหตุ
จะต้องรักษากุศลมูลไว้ให้ดี อย่าให้เสื่อมเสีย ผู้ที่มีปัญญา จะไม่ยึดติดกับสิ่งใด ผู้รับวิถีธรรมทุกคน ล้วนมีแรงกรรมในการบำเพ็ญ จะต้องอาศัยพลังสมาธิมาเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิต หากดวงชะตาไม่ถูกโฉลกกับสามีจะต้องมีจิตแน่วแน่ที่จะเปลี่ยนแปลงนิสัย เพิ่มความมุ่งมั่นจึงจะมีพลัง
พลังแห่งศักยภาพภายใน เป็นผลมาจากการสร้างกรรม ซึ่งซ่อนเร้นอยู่ในอาลยวิญญาณ จะมีความฉับไว วิบากกรรมจะปรากฏอยู่เบื้องหน้า ผลวิบากกรรมนั้นมีตอบสนองช้าเร็วและหนักเบา มีเพียงการบำเพ็ญเท่านั้น จึงสามารถลดแรงกรรมได้ การถือศีลห้า จะทำให้สามารถสร้างคุณความดีได้มากมาย
โบราณกล่าวไว้ว่า การคิดดอกเบี้ยต้องคิดไปตามวิถีของโลก การปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยสูงนั้นมีความเสี่ยง แต่ถ้าสะสมดอกเบี้ยไว้กับเบื้องบนก็จะไร้ความเสี่ยง
หนี้ใครคนนั้นก็ต้องแบกรับ ต้องชดใช้ด้วยตนเอง ถ้าจะผ่าตัดก็จะต้องถามตนเองให้ดีก่อน ไม่จำเป็นต้องมาปรึกษาอาจารย์ ดูแลรักษาสถานภาพของตนให้ดี เมื่อกิเลสตัณหาเบาบางก็จะไม่คิดถึงเรื่องการลักทรัพย์ ไม่ปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยสูง ก็จะไม่พบกับความล่มสลาย
ตอบคำถามไขปัญหา
1. ซื้อหนังแท้มาก็ให้ทิ้งไป ถ้าเป็นหนังเทียมราคาถูกนั้นใช้ได้ หนังแท้ที่มาจากอิตาลี ฮ่องกงนั้น แพงมาก
2. ให้วิเคราะห์เรื่องราวต่าง ๆ แต่มิใช่วิพากษ์วิจารณ์ว่าใครถูกใครผิด ใช้คำพูดในการสื่อสารที่ทำให้ผู้อื่นสามารถยอมรับได้ อย่าไปบีบบังคับให้เขาต้องยอมรับ
3. ฝึกบำเพ็ญ พูดให้น้อย เมื่อพบผู้น้อยมีเรื่องทุกข์ใจก็ต้องคอยปลอบโยน คำพูดที่ให้กำลังใจ ไม่พูดสุ่มสี่สุ่มห้า ถ้าใช้คำพูดหลอกลวงด้วยเจตนาดีก็ไม่เป็นไร
4. ยามเจ็บป่วย ใช้เหล้าเป็นกระษัยยาได้ แต่อย่าให้ถึงขั้นมึนเมา และใช้เหล้าผสมเป็นยาทาภายนอกได้
5. บำเพ็ญปฏิบัติด้วยความสุขสงบ อย่าเน้นหนักไปในเรื่องกิน อย่ากินของหมักดอง(อาหารที่ไม่มีประโยชน์) ปัจจุบันมีอาหารเจมากมาย ก็ให้คัดเลือกทานสิ่งที่ดีต่อสุขภาพ
ระบบโครงสร้างสรีระของร่างกาย มนุษย์เป็นสัตว์ที่มีเลือดเนื้อและจิตใจ จะต้องบำเพ็ญให้ลดละกิเลสตัณหา ใช้การสวดมนต์ท่องบทความพระศรีอาริยเมตตรัย ท่องพระนามพระพุทธะเพื่อสยบใจให้บริสุทธิ์สงบ ขจัดกิเลสตัณหาในใจออกไป
อย่าได้มีความสัมพันธ์ฉันท์ชายหญิงก่อนแต่งงาน การกระทำที่ปฏิบัติต่อบุคคลที่ไม่ใช่สามีภรรยา ถือเป็นการผิดศีล
หากไม่สามารถบำเพ็ญพรหมจรรย์ได้ ก็ให้หาคู่ครองที่ดีที่สามารถร่วมบำเพ็ญธรรมกันได้ และใช้กุศโลบายในการจัดการ
หากพบคนงามจะต้องเก็บใจกลับมา คนเราจะต้องศึกษาหาความรู้เจนจบก่อน จึงจะดำรงใจให้เที่ยงตรงได้
จะต้องหาวิธีการลดละกิเลสตัณหา จะต้องรู้จักทดแทนคุณ นำจิตญาณตนออกมาใช้ โดยคิดว่าคนเหล่านี้เป็นพ่อแม่ของตนในอดีตชาติ
หมั่นขัดเกลาบำเพ็ญวจีกรรม อย่าได้กล่าวว่าคนอื่นสุ่มสี่สุ่มห้า สุภาพชนจะต้องใช้บารมีธรรม(ปากมีไว้ให้บรรยายหลักคุณธรรมศีลธรรม) มองแต่ข้อดีของผู้อื่นก็พอ อายุมากแล้วต้องบำเพ็ญภายใน มิฉะนั้นชีวิตก็จะสูญเปล่า จะทนรับบาปกรรมไม่ไหว ดังนั้นจะต้องบำเพ็ญธรรมด้วยความจริงใจ (หากมีบัญชีหางว่าวก็จะไม่สามารถบรรลุมรรคผลได้
ปกหลัง
พุทธมารดากวนอิมสนองกาล เหล่าพุทธาประสานร่วมช่วยกัน
งานยุคสามปลายกัปสมบูรณ์พลัน พิทักษ์สิทธรรมตรงกัปกาล