หัวข้อ: “ขอบคุณ” เพียงคําเดียวดวยใจจริง เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ สิงหาคม 17, 2011, 09:57:21 PM “ขอบคุณ” เพียงคําเดียวดวยใจจริง President of Rissho Kosei-kai Nichiko Niwano รักตัวเองคือการเคารพในบรรพบุรุษ ถาพูดถึงเดือนกรกฎาคมแลวจะนึกเทศกาลโอบง เปนชวงที่ทุกคนจะกลับบานไปไหว สุสานบรรพบุรุษกันคอนขางมาก สืบตั้งแตโบราณมาแลวที่ผูคนจะไปไหวสุสานพรอมกับความรูสึกขอบคุณวา “การที่อยูไดทุกวันนี้เปนเพราะบรรพบุรุษของเราทั้งนั้น” ในชวงตอนปลายของสมัยเอโดะ(1603-1868) คุณซนโตคุ นิโนมิยะนักเกษตรกรรมแบบอยาง ไดเขียนบนกลอนจริยธรรมที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการรับชวงตอของชีวิต จากบรรพบุรุษทิ้งไว “บิดามารดา และบิดามารดา ของพวกทาน ตางอยูในตัวเรา รักตัวเราเคารพในตัวเอง ” กลาวคือ วิธีที่จะแสดงความขอบคุณตอบรรพบุรุษที่ลาลับไปไดดีที่สุดนั่นคือ การรักและเคารพในตัวเองนั่นเองแนนอนวาไมมีวิธีขอบคุณใดที่จะดีกวาการ รักและเคารพในตัวเองที่ถือเสมือนเปนปลายสายชีวิตที่สืบตอเนื่องมา เมื่อคิดใดเชนนี้แลว การนึกถึงบรรพบุรุษก็เปรียบเสมือนการยอนระลึกถึงชีวิตของตัวเอง การขอบคุณตอสิ่งที่เราไมสามารถจะมองเห็นไดเชนการไปไหวสุสานนั้น วัฒนธรรมตางๆอาจจะชวยเอื้อใหเราทําไดงายขึ้น แตสําหรับคนที่เรามองเห็นอยูตรงหนาแลวนั้นยังมีผูคนอีกมากที่ไมกลาจะพูดแมเพียงคําสั้นๆวา “ขอบคุณ” เริ่มคํา “ขอบคุณ” จากตัวเรา คนเรา เมื่อยึดติดกับอะไรแลวก็ตาม มักจะพูด “ขอบคุณ” ออกมาตามความรูสึกไมได ถึงแม เราจะไดรับความปรารถนาดีจากเขาก็ตาม ถาตัดความเห็นแกตัว เห็นแกดีแกไดหรือความระแวงสงสัย เหลานี้ใหหายไป คําขอบคุณจะออกมาอยางธรรมชาติ และ ความสมดุลกลมกลืนก็จะเกิดขึ้น อีกทั้งการเคารพและเห็นชอบแกผูอื่น ก็คือ จิตใจที่ยอมกราบไหวผูอื่น ดังนั้น การกลาวขอบคุณในทันทีเมื่อมีใครทําอะไรใหเราจึงเปนเรื่องที่สําคัญอยางยิ่ง กลาวกันวาการยอมรับในความปรารถนาดีและรูสึกขอบคุณตอสิ่งนั้นคือจิตใจแหงพระพุทธองคและพระโพธิสัตว คําขอบคุณจะทําใหบรรยากาศรอบตัวดูออนโยนขึ้น อาจจะเหมือนดังการที่เทพเจาสิ่งศักดิ์สิทธิ์กําลังชมเชยเราอยูวา “ดีมาก ดีมาก” ดังนั้น ขอใหเราละทิ้งความคิดยึดติดของเราเอาไว สิ่งสําคัญคือลองพูดคําวาขอบคุณออกมา และมัน จะเชื่อมตอไดมาซึ่งความยินดีที่ผูอื่นมีตอเราได ยิ่งไปกวานั้น ถึงแมจะโดนวาใหเจ็บช้ำน้ำใจแตเราไมควรตอบกลับเคาไปดวยความโมโห แตเปลี่ยนเปน “ขอบคุณที่ชวยสอนสั่ง”บรรยากาศในที่นั้นจะเปลี่ยนแปลงไปโดยสิ้นเชิง ตัวเราเองก็จะรูสึกโลงขึ้นรับเรื่องตางๆ ไดมากขึ้นกวาเดิม เรียกไดวา “คําขอบคุณ” นั้นมีพลังอันยิ่งใหญ แตเดิมแลวคําวาขอบคุณ (อาริกาโตะ)ในภาษาญี่ปุนมาจากคําวา สิ่งที่เกิดขึ้นไดยากเปนไปไปไมได ที่จะมีขึ้น เปนคําที่กลาวตอ เทพเจา วา “อาริกาตะชิ (ขอบคุณที่ มีขึ้น)” อยางภาษาอื่นๆ เชน Thank you หรือ Merci จะเปนคําพูดคนขอบคุณตอกัน แตที่มีความหมายมากกวานั้นคือ Arigato ในภาษาญี่ปุนนี่เอง โลกที่คงอยูตามหลักเหตุและผล ยังมีเรื่องที่นาประหลาดใจที่ยังไมรูอีกมากมาย เรียกไดวา “อาริกาตะชิ ขอบคุณที่เกิดขึ้นไดยาก ” ทั้งนั้น จากคําสอนที่วา “กาวขึ้นสูพุทธ” พวกเรามนุษยปุถุชนไมควรจะลืมที่จะ ระลึกขอบคุณและออนนอมที่ไดเดินสูทางรู แจงที่เหนือคณานับ พระพุทธองคไดตรัสสอนแกพวกเราวา “เคารพและนอมนอม เพียงพอและขอบคุณการฟงธรรมมะคือความสุขอันสูงสุด”เคารพในชีวิตของตัวเอง พัฒนาขึ้นไปโดยไมลืมที่จะถอมตัว ไมวาจะเจอเรื่องราวแบบใดก็ยิ้มรับตอบดวยคําวา “ขอบคุณ” ความสุขอันสูงสุดอยูตรงนี้นี่เอง ไมวาที่บานก็ดีหรือที่ทํางานก็ดี เมื่อเราเจอปญหาในดานมนุษยสัมพันธและรูสึกปดกลั้นจนถึงเดี๋ยวนี้ “ขอบคุณ” คําคํานี้จะทําใหสิ่งที่เปนอยูออนโยนและอบอุนขึ้น เพียงแคใหเราเริ่มปฏิบัติสิ่งนี้จากตัวเรากอนก็พอ |