96เสวนาธรรมบำเพ็ญ

ความเป็นมา

จากชีวิตประจำวันของคนไทย  เวลาสำหรับการออกกำลังกายกลายเป็นสิ่งหายากยิ่ง  นำมาซึ่งโรคอ้วนและเคร่งเครียด   เพราะขาดการออกกำลังกาย  โดย เฉพาะสำหรับผู้สูงอายุ  การออกกำลังกายต้องหลีกเลี่ยงการใช้เข่าอีกด้วย   การยืดเส้นยืดสายแบบชาวชุมชนวารุณประภาฯ   ซึ่งเป็นการผสมผสาน 3  ตำรับเข้าด้วยกัน  อันได้แก่  การออกกำลังแบบจินกังกง   การบริหารเข่า  ไหล่  และแขน  รวมถึงการฝึกพลังลมปราณและสมาธิเข้าด้วยกัน

นายบำรุง  ไตรมนตรี  ประธานชมรมออกกำลังกายแบบยืดเส้นชุมชนวารุณประภา ช.รุ่งเรือง  เทศบาลนครนนทบุรี   เล่าว่า จิ นกังกงเป็นเคล็ดวิชาที่นักพรตจังจื้อซุ่นในประเทศจีนนำมาเผยแพร่ เพราะเป็นท่าบริหารยืดเอ็นได้ทุกจุด โดยเลียนแบบมาจากตัวหนังสือจีน ตามตำราบอกไว้ว่า การหดตัวของเอ็นเป็นต้นเหตุหนึ่งของการมีร่างกายแข็งแรงและอายุยืน ดังนั้นการถนอมไว้ซึ่งการยืดหยุ่นของเอ็น จึงเป็นอีกวิธีในการชะลอความแก่ ประดุจการรักษาความยืดหยุ่นของสปริงให้คงนาน  

มีคนจีนที่อยู่ในประเทศไทยคนหนึ่งป่วย  รักษาไม่หาย  จึงเดินทางไปศึกษาที่ประเทศจีน   แพทย์จีนจึงให้ทานสมุนไพร  และสอนรำมวยจีนให้ด้วย  พอหายแล้วกลับมาเมืองไทย   จึงได้นำความรู้นี้มาเผยแพร่  ต่อมามีอาจารย์ที่เทคนิคธนบุรีท่านหนึ่งนำความรู้นี้มารำอยู่ที่ ศูนย์โทรคมนาคม  จังหวัด นนทบุรี   ริมถนนติวานนท์   ผมเห็นว่าน่าสนใจก็เลยชวนเพื่อนบ้านมารำ   เรื่อย ๆ มา  วันหนึ่งอาจารย์ย้ายบ้านไปไม่ได้มาสอนผมเลยกลายเป็นผู้นำแทน สาเหตุที่เริ่มมีคนสนใจมากขึ้นคือ ผมเกษียณจากกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ มา 8 ปี แล้ว  คนรู้จักกันทักว่าทำไมไม่แก่สักที   ผมบอกว่าตอนเช้าเดินออกกำลังกาย  ตอนเย็นรำมวยจีนเขาก็เลยสนใจ   ผล พลอยได้อีกอย่างหนึ่งคือ ทำให้คนในชุมชนได้รู้จักกัน   ผมขึ้นป้ายเชิญชวนคนมารำมวยจีนเพื่อสุขภาพ    ตอนแรกมี  3  คน   พอคนในชุมชนเดินผ่านมาเห็นเข้า ก็ขอมาร่วมฝึกด้วยทำให้เป็นกลุ่มขึ้นมา    ขณะที่ก่อนหน้านี้ต่างคนต่างอยู่   พอรำมวยจีน “จินกังกง”  จึง เป็นเพื่อนกันได้และช่วยกันเผยแพร่ความรู้ให้คนอื่นต่ออีกต่างหาก โดยทำ  ซี.ดี. และเอกสารเผยแพร่   ขอย้ำว่าไม่ได้ทำขาย   แต่ถ้าใครจะช่วยสมทบทุนเท่าใดก็ได้

          นายบำรุง ไตรมนตรี เปิดเผยอีกว่า นักวิทยาศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยอินลินอยส์   ศาสตราจารย์  ยัง  ซึ่ง เป็นอาจารย์วิทยาการเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย   ได้ศึกษาพบว่า การออกกำลังกายโบราณของจีนอย่างการรำมวยจีน   มีคุณกับผู้สูงอายุเป็นอย่างมากเพราะเป็นการรวมเอาการเคลื่อนไหวแบบง่ายมา ผสานให้เข้ากับการใช้สมาธิ   มี ผลดีในการผ่อนคลายเสริมสร้างสุขภาพกายและใจ   การออกกำลังกายแบบมวยจีนยังทำได้ค่อนข้างง่าย   ปลอดภัยและยังไม่ต้องใช้อุปกรณ์ใดประกอบเลย  ผู้ สูงอายุที่ร่างกายยังดีอยู่จึงทำได้ง่ายไม่ยุ่งยากอะไร   ผลการทดลองให้อาสาสมัครผู้สูงอายุฝึกรำมวยจีนสัปดาห์ละ  3  ครั้ง   เป็นเวลา  6  เดือน  พบว่าผู้ปฏิบัติเริ่มได้ประโยชน์หลังการฝึกได้เพียง  2  เดือนเท่านั้น   และเมื่อครบหลักสูตรแล้ว   ผู้ผ่านการฝึกมีประสิทธิภาพการทรงตัวดีขึ้น  แข็งแรงและช่วงก้าวเดินดีกว่าเก่า   พร้อมยังมีหลักฐานยืนยันว่ารำมวยจีนช่วยให้นอนหลับมีสมาธิและความจำดีขึ้น



การออกกำลังกายแบบ“จินกังกง”  

            การออกกำลังกายแบบ “จินกังกง”  ไม่จำเป็นต้องใช้เพลงประกอบ   แต่ควรฝึกในสถานที่สงบจิตจะได้ตามท่าไปด้วย  เจตนาเพื่อให้กายกับจิตไปด้วยกัน  วิชา ที่ทางชมรมฯ  นำมาสาธิตนี้เป็นการผสมผสาน  3  สูตรด้วยกัน คือ  1. การยืดเส้นยืดสายแบบจินกังกง   รวม  8  ท่า   2. การบริหารเข่า   ไหล่และแขน    3.การยืดพลังลมปราณและสมาธิ  

         การออกกำลังกายแบบ  จินกังกง  มี  8  กระบวนท่า  แต่ละท่าทำได้ง่าย ๆ ทำช้า ๆ เอาจิตตามในกระบวนท่า   ท่าหนึ่ง ๆ ทำซ้ำ ๆ  10  ครั้ง จะใช้เวลาประมาณ  30  นาที   ประโยชน์ที่ได้รับจะได้ทั้งออกกำลังกายและทำสมาธิ คือ จิตสงบไม่เครียดในภาวะน้ำท่วมขังและอากาศหนาวที่สำคัญคือ  การออกกำลังกายดังกล่าวมีผลดีต่อระบบหัวใจ   ไต   ตับ   ม้าม  กระเพาะ   ลำไส้  และระบบหมุนเวียนโลหิต อีกทั้งเป็นผลดีต่อเส้นเอ็นทำให้หายจากอาการปวดคอ   ปวดเอว  ดีต่อกระดูกสันหลังทำให้มีการคลายกล้ามเนื้อพังผืด ทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองดีขึ้นไม่เป็นอัมพาต

        ในทางการแพทย์  กล่าวว่า  การ ยืดเส้นเอ็นจึงสามารถลดการเจ็บป่วยต่าง ๆ  ทำให้ร่างกายแข็งแรง  ชะลอความแก่   จึงนับว่าเป็นวิชาที่น่าศึกษาในยุคปัจจุบัน   ที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการไปใช้เครื่องมือในการออกกำลังเพียงแต่ขยัน ฝึกฝนวันละ  30  นาที  เพียง  20-30  วัน   จะเกิดผลต่อผู้ฝึกอย่างคาดไม่ถึง   ไม่จำกัดอายุของผู้ฝึก แต่ห้ามฝึกหลังอาหาร หรือหลังอาหาร  2 ชั่วโมงจึงจะฝึกได้

            การยืดเส้นยืดสายผสมผสานแบบจินกังกงของชาวชุมชนวารุณประภาฯ  นี้  ผ่านการพิสูจน์แล้วว่าฝึกเพียงวันละ  30  นาที   ทุกวันติดต่อกัน  ภายใน  20-30  วัน   จะมีการเปลี่ยนแปลงในทางดีต่อร่างกาย  เช่น  นอนหลับสบาย   ความจำดี   เพิ่มสมรรถภาพทางเพศ   ป้องกันอาการปวดหัว   กล้ามเนื้อแข็งแรง   ผมที่ร่วงก็มีผมใหม่งอกขึ้น   ผมขาวกลายเป็นผมดำ   ตามัว  เบาหวาน   หัวใจ   โรคอ้วน  มีอาการดีขึ้น  ลดอาการเจ็บปวดต่าง ๆ ทำให้ร่างกายแข็งแรง  ชลอความแก่   นับเป็นการออกกำลังกายที่น่าสนใจสำหรับคนรุ่นใหม่        จิงกังกง  นี้ฝึกง่ายใช้เวลาเพียงวันละ  30  นาทีเท่านั้น    ก็มีผลดีต่อร่างกายและจิตใจดีกว่าเกิดโรคแล้วไปเสียเงินรักษาภายหลัง จึงช่วยประหยัดเงินในการดูแลสุขภาพ



ท่า 8 ท่า ของจินกังกง  
แต่ละท่าของจินกังกงส่งผลต่อการปรับสมดุลของอวัยวะภายในร่างกาย

ท่าที่ 1 ฝ่ามือทะลุฟ้า ซาน (3) เจียว จะทำให้ลมในร่างกายไม่ติดขัด

ท่าที่ 2  พนมมือหน้าหลัง จะมีผลดีต่อไต

ท่าที่ 3  ดันฟ้า กดดิน ท่านี้จะมีผลดีต่อม้ามและกระเพาะ

ท่าที่ 4 แผลงศรซ้าย-ขวาเป็นผลดีต่อตับ

ท่าที่ 5 ก้มหน้ามองเท้า ฝ่ามือยันภูผา ท่านี้จะดีต่อหัวใจ

ท่าที่ 6 บิดเอว มองฟ้าดูดิน จะดีต่อเส้นเอ็น ทำให้หายปวดคอ หรือเอว เพราะท่านี้ต้องบริหารยืดคอ หมุนเอวซ้ายและขวาช้าๆ จะทำให้เส้นเอ็นบริเวณคอและเอวคลายตัวได้ดี

ท่าที่ 7 หงส์กางปีก ดัดหลัง ดีต่อกระดูกสันหลัง ช่วยคลายกล้ามเนื้อพังผืด เพราะท่านี้จะใช้สองแรงสองขาและการงอตัวของส่วนเอว ทำให้ได้บริหารกระดูกสันหลัง 2 มือ 2 ขา

ท่าที่ 8 สองเท้ากระแทก ไร้โรคา ทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองได้ดี




ข้อแนะนำในการออกกำลังกาย

         1.ไม่ควรออกกำลังกายภายหลังรับประทานอาหาร   แต่ควรจะมีระยะเวลาจากการรับประทานอาหารไม่น้อยกว่า  2  ชั่วโมง
         2. การออกกำลังกายเป็นกลุ่มจะได้ผลดีกว่ารำคนเดียว
         3. ควรแบ่งปันความรู้นี้ไปยังคนอื่น ๆ  โดยความปรารถนาให้ผู้อื่นมีสุขภาพแข็งแรง  ตัวท่านก็จะมีสุขภาพดีไปด้วย
         4.ขณะออกกำลังกายควรทำช้า ๆ เอาจิตตามไปกับท่าทางต่าง ๆ ตลอดเวลา  ไม่ควรคุยหรือคิดไปเรื่องอื่น ๆ  ขณะออกกำลังกาย   ฟังคำสั่งจากครูฝึกอย่างเดียวแล้วทำตามจะได้ผลดี

         5.ข้อ สำคัญคือ ต้องปฏิบัติอย่างต่อเนื่องอย่างน้อย 1 เดือน เพราะการรำมวยจีนลักษณะนี้จำท่าได้ง่ายๆ เหมาะกับผู้สูงอายุ ซึ่งปัจจุบันเป็นทั้งเบาหวาน หัวใจ และความดันโลหิตสูง


ติดต่อสอบถาม

ปัจจุบันมีการสร้างเครือข่ายจิงกังกง   ด้วยการฝึกบุคลากรเพื่อไปสานภูมิปัญญาในชุมชนของตนเพื่อขยายผลให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง  จึงอยากให้ผู้ได้รับความรู้ในการออกกำลังกายแบบยืดเส้นยืดสาย “จินกังกง”   ที่ ได้รับซีดีและเอกสารไปแล้วช่วยเผยแพร่ให้แก่ผู้ใกล้ชิด   รวมทั้งชุมชนต่าง ๆ ต่อไป   เพราะการออกกำลังกายดังกล่าว   ไม่ต้องใช้พื้นที่มากแม้แต่ในบริเวณบ้านในห้องนอนก็ทำได้     และหากท่านต้องการพบกับการสาธิตและสามารถฝึกฝนได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายที่ 1. ชุมชนวารุณประภา  ซอยติวานนท์ 32  ทุกวัน เวลา 17.30-18.00 น.  2. อาคารกระทรวงวิทยาศาสตร์ ชั้น 8 ทุกวันจันทร์-ศุกรุ์   เวลา  16.30 - 17.00 น.  และ 3.ที่ศูนย์โทรคมนาคม   จังหวัดนนทบุรี   เวลา  17.30-18.00 น.     หรือหากรวมกลุ่มกันได้  20  คน   ก็ติดต่อทางชมรมยินดีส่งวิทยากรไปแนะนำเกี่ยวกับการยืดเส้นยืดสายดังกล่าว  
 ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่  นายบำรุง  ไตรมนตรี  ประธานชมรมยืดเส้นยืดสายแบบจิงกังกง  โทร.02-580-2661 และมือถือ 081-801-2519