ตอบ
ยินดีต้อนรับสู่ฟอรั่ม 96 เสวนาธรรมบำเพ็ญ
กรุณา ลงทะเบียน เพื่อสามารถใช้งานฟอรั่มได้อย่างเต็มรูปแบบ !
ลงทะเบียนโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายและใช้เวลาเพียงเล็กน้อย

"โดยพื้นฐานธรรมชาติเดิมแท้ของตัวเรา
เป็นสิ่งที่บริสุทธิ์และสะอาด
ถ้าเรารู้จิตของเราและเห็นถึงธรรมชาติเดิมแท้ของเรา
เราทั้งหลายก็จะบรรลุถึงความเป็นพุทธะ"

ตอบ
คำเตือน: หัวข้อนี้ไม่มีการตอบกระทู้ อย่างน้อย 120 วัน
คุณแน่ใจหรือไม่ ที่จะตอบกระทู้, กรุณาพิจารณาเริ่มหัวข้อใหม่
ชื่อ:
อีเมล์:
หัวข้อ:
ไอค่อนข้อความ:
ตัวหนาตัวเอียงตัวขีดเส้นใต้ตัวมีขีดกลาง|ตัวเรืองแสงตัวมีเงาตัวอักษรวิ่ง|จัดย่อหน้าอิสระจัดย่อหน้าชิดซ้ายจัดย่อหน้ากึ่งกลางจัดย่อหน้าชิดขวา|เส้นขวาง|ขนาดตัวอักษรแบบตัวอักษร
ใส่แฟลชใส่รูปHighslide Imageใส่ไฮเปอร์ลิ้งค์ใส่อีเมล์ใส่ลิ้งค์ FTP|ใส่ตารางใส่แถวของตารางใส่คอลัมน์ตาราง|ตัวยกตัวห้อยตัวพิมพ์ดีด|ใส่โค้ดใส่การอ้างถึงคำพูด|ใส่ลีสต์
ธรรมะ
 

shortcuts: กด alt+s เพื่อตั้งกระทู้ หรือ alt+p แสดงตัวอย่าง

dookdik_greenTea_14 dookdik_greenTea_8 dookdik_greenTea_20 dookdik_greenTea_18 dookdik_greenTea_12 dookdik_greenTea_11 dookdik_greenTea_2 dookdik_greenTea_9 dookdik_greenTea_4 dookdik_greenTea_7 dookdik_greenTea_5 dookdik_greenTea_15 dookdik_greenTea_10 dookdik_greenTea_16 dookdik_greenTea_19 dookdik_greenTea_13 dookdik_greenTea_1 dookdik_greenTea_17 dookdik_greenTea_3 family3 family1 family2 family4 ร้อน [เพิ่มเติม]
รหัสโค๊ด
พิมพ์อักขระ ตามที่คุณเห็นในภาพ วิธีการนี้จะช่วยป้องกันการโพสต์กระทู้โดยอัตโนมัติ


+ ตัวเลือกเพิ่มเติม...
สามารถอัพโหลดได้หลายรูปพร้อมกัน
Support File :
jpg, jpeg, gif, png Size 2MB



สรุปหัวข้อ
ข้อความเมื่อ: สิงหาคม 08, 2011, 04:13:00 PM
ข้อความโดย: admin

มหาปรัชญาปารมิตา

 อรรถาธรรมโดย ดร.อนันต์ (อนัตตา)
 :lS2:บรรดาผู้ที่ยึดมั่น แต่ความรู้อย่างเดียวจึงเกิดความสับสนต่อคำว่า "ปัญญา" และมีความเชื่ออย่างงมงายว่า ความรู้เป็นหนทางแห่งความสำเร็จพาให้มนุษย์พ้นจากทุกข์ทั้งปวงและดูแคลนผู้ ที่ปราศจากความรู้ว่าโง่เง่า ความจริงแล้วระหว่าง "คนฉลาด" กับ "คนโง่" ต่างมีโอกาสทัดเทียมกันในอันที่จะพาตนเองไปสู่หนทางอบายภูมิ แต่ "คนโง่" และ "ฉลาด" ต่างมีปัญญาเท่าเทียมกัน พระธรรมาจารย์ฮุ่ยเหนิงได้อธิบายข้อความใน "มหาปรัชญาปารมิตาสูตร" โดยรับรองว่า "ปัญญาที่ทำให้เวไนยสัตว์เข้าสู่สภาวะตรัสรู้นั้นมีอยู่ในตัวเราทุกคน แต่เป็นเพราะมือวิชชาความมืดบอดครอบงำจิตของเราไว้ จึงมองไม่เห็นปัญญาด้วยตัวเอง จนต้องเที่ยวเสาะแสวงหาคำแนะนำตักเตือนจากผู้อื่น ที่เขาเห็นแจ้งรู้ธรรมญาณก่อนหน้าที่เราจะรู้จัก ธรรมญาณของเราเอง" วจนะตอนนี้แสดงให้เห็นถึงความเป็นจริงของมนุษย์ทุกคนมีธรรมญาณอย่างเดียวกัน และมีอานุภาพเท่ากัน แต่เพราะความหลงที่ครอบงำอยู่นั้นชักพาให้ผู้คนสูญเสียความศรัทธาในตัวเอง กลับไปศรัทธาภายนอกและยึดถือเป็นที่พึ่งแห่งชีวิตของตนเอง จึงพ้นไปจากเส้นทางแห่งการตรัสรู้ซึ่งเป็นสภาวะเฉพาะตน ไม่มีผู้ใดช่วยหรือทำให้ตนเองรับรสแห่งการตรัสรู้นั้นได้ พระธรรมาจารย์ฮุ่ยเหนิงชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างคนที่รู้แจ้งธรรมญาณ ของตนเอง กับผู้ที่ไม่รู้ว่า "ถ้าธรรมชาติแห่งความเป็นพุทธะถูกห่อหุ้มอยู่ด้วยอวิชชาแล้ว ก็ไม่มีความแตกต่างระหว่างผู้รู้แจ้งกับผู้มืดบอด ข้อแตกต่างอยู่ที่ผู้หนึ่งรู้แจ้งธรรมญาณส่วนอีกคนหนึ่งยังมืดมิดอยู่" มนุษย์ไม่มีความแตกต่างแห่งปัญญาเพราะฉะนั้นพระธรรมาจารย์ฮุ่ยเหนิงจึงได้นำ เอา มหาปรัชญาปารมิตาสูตร มาชี้แจงให้ผู้ที่ปรารถนาพ้นไปจากความมืดบอดแห่งอวิชชา โดยกล่าวว่า "บรรดาคนที่ร้องแต่คำว่า "ปัญญาๆ" อยู่ทั้งวันโดยไม่ทราบเลยว่าแท้ที่จริงปัญญามีอยู่ในธรรมชาติเดิมแท้ของตน เองแล้ว เหมือนกับการพูดถึงอาหาร ย่อมไม่สามารถแก้หิวได้ฉันใด คนที่เอ่ยถึงปัญญาแต่ปากจึงไม่อาจพ้นไปจากความมือบอดได้ฉันนั้น เราอาจพูดถึงความว่างเป็นเวลาตั้งแสนกัลป์ แต่การพูดถึงเพียงอย่างเดียวไม่สามารถทำให้เราเห็นแจ่มแจ้งในธรรมญาณได้ และในที่สุดก็ไม่ได้อะไรตามที่ตนเองประสงค์เลย" ในกรณีเช่นนี้ชี้ให้เห็นความเป็นจริงว่า การบำเพ็ญเพื่อให้รู้แจ้งจึงมิได้อยู่ที่ความสามารถทางด้านการพูด เขียน อ่าน แต่ประการใดเลย เพราะฉะนั้นมักเป็นความเข้าใจผิดเสมอว่าคนที่เก่งทางด้านพูด เขียน อ่าน เป็นผู้ที่รู้แจ้งในธรรมญาณของตนซึ่งความจริง ทั้งสองประการนี้เป็นคนละเรื่องมิได้เกี่ยวข้องกันเลย ผู้ที่รู้แจ้งในธรรมญาณของตนเองอาจเป็นผู้ที่ไม่รู้จักหนังสืออย่างพระธร รมาจารย์ฮุ่ยเหนิง อ่านหนังสือไม่ออกเลยแต่เป็นผู้ตรัสรู้ได้เฉกเช่นพระอริยะเจ้าทั้งหลาย พระธรรมาจารย์ฮุ่ยเหนิงกล่าวถึง "มหาปรัชญาปารมิตา" ว่าเป็นคำสันสกฤตมีความหมายถึง "ปัญญาอันใหญ่หลวง" เพื่อพาให้พ้นไปจากฝั่งแห่งทะเลสังสารวัฏซึ่งต้องปฏิบัติด้วยใจ จะท่องบ่นสูตรนี้หรือไม่มิใช่ข้อสำคัญ "การท่องบ่นสูตรนี้เฉยๆ โดยปราศจากการปฏิบัติด้วยใจก็จะได้ผลเหมือนไปเล่นกับอสุรกาย หรือ เป็นเช่นการพรางตาของนักเล่นมายากลด้วยเวทย์มนต์ เหมือนกับสายฟ้าแลบเหมือนกับหยาดน้ำค้างบนใบหญ้า" คนที่ชอบสวดมนต์ไม่ว่าจะเป็นบทใด โดยมากไม่รู้ความหมายของมนต์ในทำนองเดียวกันผู้รู้ความหมายของมนต์ก็นำไป ปฏิบัติให้ได้ผลจริงตามมนต์นั้นมิได้เช่นกัน ด้วยเหตุนี้พระธรรมาจารย์ฮุ่ยเหนิงจึงสอนให้ปฏิบัติทั้งสองอย่างทั้งท่องบ่น และปฏิบัติด้วยใจ เมื่อนั้นแหละจึงพบกับธรรมชาติแท้แห่งความเป็นพุทธะซึ่งนอกเหนือไปจากนี้ แล้วมิต้องไปค้นหาพุทธะที่ไหนอีกเลย แต่เป็นเพราะภาวะจิตที่หลงงมงายจึงพากันไปค้นหาแต่พุทธะนอกตัว จนสูญเสียความเป็นตัวของตัวเอง และหลงไปนับถือแต่สิ่งที่จอมปลอมว่า เป็นพุทธะเห็นใครแต่งกายประหลาดและมีวิธีบำเพ็ญชนิดที่คนธรรมดาทำไม่ได้ก็ หลงยึดถือว่าเป็นพุทธะ อย่างเช่น ฤาษีที่มีผู้นำเข้ามาจาก อินเดีย เพื่อปักหลักให้คนหลงงมงายกราบไหว้บูชาให้ประสิทธิ์ประสาทบุญบารมีความดีงาม หรือความเป็นศิริมงคลให้บังเกิดขึ้นแก่ตน นอกจากความหลงงมงายในบุคคลแล้วยังตกต่ำลงไปถึงวัตถุสิ่งของต่างๆ ที่เห็นลักษณะผิดแผกแปลกประหลาดต่างก็พากันกราบไหว้บูชาเห็นเป็นความ ศักดิ์สิทธิ์ การปฏิบัติของคนทั่วไปจึงอยู่ที่การกราบไหว้เพียงสถานเดียวเพราะฉะนั้นจึงมี พระเครื่องออกมามากมายหลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็นพระอาจารย์ใดโด่งดังขึ้นมาก็กลายเป็น "ธุรกิจวัตถุมงคล" สร้างความร่ำรวยให้แก่ผู้ที่ทำมาหากินจากเหยื่อที่หลงงมงายอย่างประมาณจำนวน มิได้เลย เพราะฉะนั้นจึงเป็นเรื่องที่แปลกประหลาดสิ้นดีที่ภาวะแห่งความหลงงมงายได้ ก่อให้เกิดพฤติกรรมประหลาดขึ้นในหมู่ของผู้ที่กราบไหว้บูชาพระพุทธองค์ โดยมได้คำนึงถึงคำสอนของพระพุทธเจ้าที่ให้ได้พึ่งพาพุทธะในตัวเอง พุทธะ ซึ่งเป็น ผู้รู้ทุกข์ รู้ที่สุดแห่งทุกข์ และตัดทุกข์ทิ้งได้ด้วยตนเอง ผู้คนเหล่านี้จึงงยังคงลอยคออยู่ในทะเลทุกข์ถูกหลอกลวงจากคนฉลาดเจ้าเล่ห์ ไม่มีที่สิ้นสุด

96 ธรรมคือแรงใจ | ปิ๊งแว๊บ ! ปััญญาแจ่มบรรเจิด | อ่านธรรม | มูลนิธิเมตตาอาทร | เสบียงบุญ | วิถีอนุตตรธรรม |

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความคิดเห็น

1. โปรดงดเว้น การใช้คำหยาบคาย ส่อเสียด ดูหมิ่น กล่าวหาให้ร้าย สร้างความแตกแยก หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
2. ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นเวบบอร์ดโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไปและสมาชิก
ซึ่งทีมงาน 96rangjai มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น และไม่สามารถนำไปอ้างอิงทางกฎหมายได้
3. หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป
4. ทีมงาน 96rangjai ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความคิดเห็นนั้น